สถานการณ์การจำหน่ายสลาก N3: ความท้าทายและโอกาสแก้ไขปัญหาหวยใต้ดิน

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงสถานการณ์การจำหน่ายสลากตัวเลขสามหลัก (สลาก N3) ซึ่งอยู่ในช่วงทดลองขายผ่านแซนด์บ็อกซ์ไปแล้ว 2 งวด โดยพบว่ายอดจำหน่ายในงวดล่าสุดอยู่ที่ 1,338,335 ใบ ลดลงจากงวดแรกที่มียอดจำหน่าย 1,898,869 ใบ หรือลดลงถึง 506,534 ใบ การลดลงนี้ส่งผลให้มูลค่าเงินรางวัลลดลงและขาดแรงจูงใจเมื่อเทียบกับหวยใต้ดิน

นายจุลพันธ์ระบุว่า หวยใต้ดินยังคงเป็นตัวเลือกที่ดึงดูดผู้ซื้อได้มากกว่า เนื่องจากมีเงื่อนไขการชำระเงินที่ยืดหยุ่นกว่า เช่น การจ่ายเงินแบบงวดชนงวดหรือชำระในงวดถัดไป ซึ่งสลาก N3 ยังไม่มีระบบดังกล่าว จึงเป็นโจทย์สำคัญที่สำนักงานสลากฯ ต้องพิจารณาว่า สลาก N3 สามารถแก้ไขปัญหาหวยใต้ดินได้หรือไม่

“เป้าหมายของสลาก N3 คือการสร้างแรงจูงใจให้ผู้ซื้อหวยใต้ดินหันมาซื้อสลากที่ถูกกฎหมาย ยอดขายที่ลดลงในช่วงทดลองนี้ต้องมีการประเมินและปรับปรุงให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค” นายจุลพันธ์กล่าว พร้อมย้ำว่า จะต้องให้เวลาสำนักงานสลากฯ อีก 2-3 งวดในการปรับปรุงรูปแบบ หากพบว่าสลาก N3 ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ และยังส่งผลกระทบต่อการจำหน่ายสลาก L6 (สลาก 6 หลัก) ทั้งแบบใบและแบบดิจิทัล อาจต้องพิจารณายกเลิกการจำหน่ายสลาก N3

ยอดขายสลาก N3 ลดลงแต่ไม่กระทบผู้ค้าสลาก

นายจุลพันธ์ยังชี้แจงเพิ่มเติมว่า ยอดขายสลาก N3 ที่ลดลงไม่ได้ส่งผลกระทบมากต่อตัวแทนผู้ค้าสลาก เนื่องจากผู้ค้าสลาก N3 เป็นเพียงผู้ได้รับสิทธินำสลากไปจำหน่าย และสลากที่ขายไม่หมดจะถูกส่งคืนเข้าสู่ระบบ ส่วนรายได้ที่เกิดขึ้นจากยอดขาย จะนำมาหารสัดส่วนเพื่อกระจายในเงินรางวัลต่างๆ ต่างจากสลากแบบใบที่ผู้ค้าต้องชำระค่าสลากล่วงหน้าก่อนนำไปจำหน่าย

การจำหน่ายสลาก L6 แบบดิจิทัล

สำหรับกรณีสลากกินแบ่งรัฐบาลแบบดิจิทัล (สลาก L6) งวดวันที่ 16 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งขายไม่หมดเป็นงวดแรก โดยมียอดจำหน่ายที่เหลือเกือบ 1 ล้านใบ นายจุลพันธ์กล่าวว่า ปัญหานี้เป็นปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ใช่ปัญหาเชิงโครงสร้าง โดยสาเหตุหลักมาจากปัจจัยชั่วคราว เช่น การใช้จ่ายในช่วงเทศกาลลอยกระทง และสถานการณ์น้ำท่วมที่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชน

ความท้าทายของสลาก N3

นายจุลพันธ์กล่าวสรุปว่า การจำหน่ายสลาก N3 เป็นแนวทางใหม่ที่ต้องการตอบโจทย์ผู้ซื้อหวยใต้ดินและส่งเสริมการซื้อสลากที่ถูกกฎหมาย แต่ยังต้องมีการปรับปรุงรูปแบบการขายให้มีแรงจูงใจและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น โดยสำนักงานสลากฯ จะต้องประเมินผลการทดลองขายในช่วงต่อไป และปรับปรุงกลไกเพื่อสร้างสมดุลระหว่างการจำหน่ายสลาก N3 และสลาก L6

“สุดท้ายแล้ว การจำหน่ายสลากต้องมุ่งสร้างความยั่งยืนทั้งในแง่รายได้ของรัฐและการตอบสนองความต้องการของประชาชน” นายจุลพันธ์กล่าว.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงการคลัง

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR