นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ กล่าวถึงข้อเสนอจากภาคเอกชน
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้เปิดเผยเกี่ยวกับข้อเสนอจากภาคเอกชนที่เสนอให้รัฐบาลพิจารณานำมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านการลดหย่อนภาษีและโครงการคนละครึ่งกลับมาใช้ใหม่ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังระบุว่ารัฐบาลได้พิจารณาข้อเสนอทั้งหมดอย่างรอบคอบและไม่ปิดกั้นข้อเสนอใดๆ
การพิจารณามาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายและลดหย่อนภาษี
นายจุลพันธ์กล่าวว่า หากการดำเนินมาตรการเร่งรัดการใช้จ่ายหรือการลดหย่อนภาษีดำเนินไปในช่วงไฮซีซั่น ประชาชนก็มีการใช้จ่ายอยู่แล้ว ดังนั้น ควรรอให้มาตรการดังกล่าวถูกนำมาใช้ในช่วงที่ประชาชนชะลอการใช้จ่าย หรือช่วงโลว์ซีซั่น เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
มุ่งเน้นประโยชน์ของชาวบ้านมากกว่าเรื่องศักดิ์ศรี
นายจุลพันธ์เน้นย้ำว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันไม่ได้ยึดติดกับเรื่องศักดิ์ศรี แต่ให้ความสำคัญกับการนำประโยชน์ของชาวบ้านมาเป็นหลัก หากโครงการที่ภาคเอกชนเสนอมาแล้วยังมีประโยชน์ รัฐบาลก็พร้อมดำเนินการโดยไม่ติดขัดใดๆ
เป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2567 และ 2568
นายจุลพันธ์กล่าวว่ารัฐบาลตั้งเป้าให้เศรษฐกิจไทยเติบโต 3% ในปี 2567 และคาดว่าในปี 2568 เศรษฐกิจไทยจะเติบโตเกิน 3% แน่นอน ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา รวมถึงการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคต
นายจุลพันธ์ย้ำว่าในช่วงปีใหม่ที่จะถึงนี้ รัฐบาลจะมีมาตรการใหม่ๆ ออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแน่นอน ซึ่งมาตรการเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทย
การดูแลสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เข้าไปดูแลในเรื่องสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีแรงขับเคลื่อนที่ดีและสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
การไม่ยึดติดกับมาตรการเก่าแต่เปิดรับมาตรการใหม่ที่มีประโยชน์
นายจุลพันธ์กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลไม่ยึดติดกับมาตรการที่เคยทำมาแล้วในอดีต แต่เปิดรับมาตรการใหม่ที่สามารถนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน หากมาตรการที่เสนอมีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและประชาชน รัฐบาลก็พร้อมที่จะดำเนินการอย่างไม่ลังเล
การมองการณ์ไกลเพื่อเศรษฐกิจที่มั่นคง
นายจุลพันธ์กล่าวว่า การดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยในระยะยาว ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยสามารถเติบโตอย่างยั่งยืนและสามารถแข่งขันในระดับโลกได้
บทสรุป
การเปิดเผยของนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการนำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนและสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน รัฐบาลพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนและนำมาตรการใหม่ๆ มาใช้เพื่อเสริมสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจและสร้างความมั่นคงให้กับประเทศไทยในอนาคต
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.