เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2567 นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย ได้ออกมาเปิดเผยถึงความกังวลเกี่ยวกับนโยบายเร่งด่วน 10 ข้อของรัฐบาล โดยเรียกร้องให้มีการลงรายละเอียดให้ชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีเพียงนโยบายที่กล่าวถึงในเชิงทั่วไป และยังขาดรายละเอียดเชิงลึกที่จะช่วยให้ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มอีสามารถเข้าใจและปรับตัวได้
นางฐนิวรรณแสดงความเห็นว่า ภาคธุรกิจเอสเอ็มอียังคงเผชิญกับปัญหาสินค้าราคาถูกที่เข้ามาทุ่มตลาดอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีธุรกิจจากต่างชาติเข้ามาแข่งกับคนไทย เช่น ธุรกิจร้านอาหาร ส่งผลให้ภาคธุรกิจภายในประเทศได้รับผลกระทบอย่างมาก เธอเรียกร้องให้รัฐบาลควรมีการรับฟังเสียงของผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ และควรบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและจริงจังเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของคนไทย
3 ประเด็นเร่งด่วนที่ภาคธุรกิจร้านอาหารต้องการให้รัฐบาลดำเนินการ
สถานการณ์ธุรกิจร้านอาหารยังซบเซา
นางฐนิวรรณเปิดเผยว่า ขณะนี้ธุรกิจร้านอาหารยังคงประสบปัญหาด้านกำลังซื้อที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยรวมยอดขายของร้านอาหารไม่ถึง 50% ในบางจังหวัด เช่น ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สถานการณ์แย่ลงมากยิ่งขึ้น สาเหตุหลักมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ต่ำลง ผู้ประกอบการหวังว่ารัฐบาลจะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท ที่คาดว่าจะเริ่มในเดือนกันยายนนี้
นางฐนิวรรณยังได้เสนอให้รัฐบาลกำหนดให้ผู้ได้รับเงินดิจิทัลสามารถใช้จ่ายเงินนี้ในร้านอาหารได้ เพื่อช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในธุรกิจร้านอาหารมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมและเป็นการฟื้นฟูกำลังซื้อในภาคธุรกิจร้านอาหาร
ความคาดหวังต่อมาตรการรัฐบาล
นางฐนิวรรณกล่าวปิดท้ายว่า ภาคธุรกิจร้านอาหารหวังว่ารัฐบาลจะดำเนินนโยบายที่เอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจขนาดเล็กมากขึ้น โดยเฉพาะการออกมาตรการที่สามารถบรรเทาผลกระทบในด้านค่าแรงและต้นทุนการดำเนินงาน นอกจากนี้ การสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอีที่เป็นกลุ่มใหญ่ในภาคเศรษฐกิจจะเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
สรุปสถานการณ์:
นโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศในเดือนตุลาคมนี้อาจจะซ้ำเติมธุรกิจที่กำลังเผชิญกับความท้าทายจากเศรษฐกิจซบเซา รัฐบาลจำเป็นต้องมีมาตรการที่ละเอียดและชัดเจนในการช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหาร รวมถึงธุรกิจเอสเอ็มอีเพื่อให้สามารถฟื้นฟูและดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืนในอนาคต
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.