มาม่าขยายกำลังผลิตท่ามกลางเศรษฐกิจฟื้นช้า เติบโตรายได้ 3 หมื่นล้านบาท

ในวันที่ 11 ตุลาคม นายพันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFMAMA ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรา “มาม่า” เปิดเผยว่าตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในปี 2567 คาดว่าจะเติบโตถึง 5-6% แม้เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า แต่ยอดขายยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มบะหมี่พรีเมียม

การเติบโตของตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

ตามการประเมินของนายพันธ์ มาม่าคาดว่าปีนี้มียอดขายรวมประมาณ 29,000 ล้านบาท เติบโต 7-8% และมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 50-51% จากมูลค่าตลาดรวม 20,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นส่วนแบ่งที่มากที่สุดในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป การเติบโตนี้เกิดจากสถานการณ์ต้นทุนที่เริ่มทรงตัว ทำให้ผู้ผลิตสามารถแข่งขันได้ดีขึ้น และมีกิจกรรมการตลาดและโปรโมชั่นมากขึ้น ซึ่งเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อในตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ

กลยุทธ์การตลาดและโปรโมชั่นเพิ่มยอดขาย

การแข่งขันในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เข้มข้นทำให้ผู้ผลิตต้องมีการจัดกิจกรรมการตลาดและโปรโมชั่นมากขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้นในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ คาดว่ากำลังซื้อจะคึกคักขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่แจกเงินสด 10,000 บาทให้กับกลุ่มเปราะบางและผู้พิการ อย่างไรก็ตาม นายพันธ์เน้นว่าการซื้อมาม่าในช่วงนี้ส่วนใหญ่มาจากการซื้อแบบปกติที่ทุกครัวเรือนมีการซื้อเป็นประจำอยู่แล้ว

มาม่าขยายกำลังผลิตเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น

สำหรับปี 2568 มาม่ามีแนวโน้มที่จะขยายตัวต่อเนื่องจากตลาดปีนี้ โดยสถานการณ์ต้นทุนวัตถุดิบยังคงไม่ผันผวนเหมือนปี 2565 แต่ยังคงกังวลเรื่องสงครามที่ยืดเยื้อ ซึ่งอาจส่งผลต่อราคาพลังงานและต้นทุนการผลิต อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่าสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดี นอกจากนี้ มาม่ายังมีแผนที่จะติดตั้งเครื่องจักรใหม่อีก 2 เครื่อง จากเดิม 4 เครื่อง เป็น 6 เครื่อง เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตในสายผลิตภัณฑ์บิ๊กแพคและมาม่าโอเคที่มีตลาดเติบโตขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา

การขยายตลาดส่งออกเพื่อเพิ่มรายได้

มาม่ามีแผนที่จะขยายส่วนแบ่งการส่งออกจากปัจจุบันที่อยู่ระหว่าง 28-30% ให้เพิ่มขึ้นเป็น 30-40% โดยการขยายการผลิตและเข้าสู่ตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายรายได้ในปี 2569-2570 คือ 30,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการดันรายได้ให้สูงขึ้นจากการขยายตลาดส่งออกและเพิ่มกำลังการผลิตภายในประเทศ

ปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตของมาม่า

ปัจจัยที่ทำให้ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเติบโตได้ดีในปีนี้ ได้แก่ การทรงตัวของต้นทุนวัตถุดิบ การแข่งขันที่เข้มข้นในด้านการตลาด และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค นอกจากนี้ การขยายกำลังผลิตและการขยายตลาดส่งออกยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้มาม่าสามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดที่สูงที่สุดในกลุ่มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้

อนาคตที่สดใสสำหรับมาม่าและตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

ด้วยกลยุทธ์การขยายกำลังผลิตและการขยายตลาดส่งออกที่ชัดเจน มาม่ามองว่าอนาคตของตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในประเทศไทยยังมีแนวโน้มที่ดีต่อไป แม้ว่าจะมีความท้าทายจากปัจจัยภายนอกเช่น สงครามและราคาพลังงาน แต่ด้วยการบริหารจัดการที่ดีและการขยายกำลังผลิตอย่างต่อเนื่อง มาม่ามีความมั่นใจว่าจะสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดและขยายรายได้ให้สูงขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME