เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 The Jakarta Post รายงานเรื่องราวที่สะท้อนถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการผลิตอัลบั้ม K-pop โดยเฉพาะการสะสมซีดีจำนวนมากที่มาพร้อมกับแคมเปญการตลาดที่ดึงดูดใจแฟนเพลงทั่วโลก
ปัญหาการผลิตและขยะซีดี K-pop
คิม นา-ยอน แฟนเพลง K-pop ชาวเกาหลีใต้เผยว่า ในอดีตเธอเคยซื้อซีดีจำนวนมากเพียงเพื่อตามหา “โฟโต้การ์ด” หรือของสะสมจากศิลปินในอัลบั้ม จนกระทั่งเธอเริ่มตระหนักถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการสะสมเหล่านี้ โดยซีดีที่ผลิตจากโพลีคาร์บอเนต (Polycarbonate) แม้จะสามารถรีไซเคิลได้ แต่ต้องผ่านกระบวนการเฉพาะเพื่อป้องกันก๊าซพิษที่อาจปล่อยออกมา ข้อมูลจากการศึกษาของ Keele University ในสหราชอาณาจักรเผยว่า การผลิตซีดี 1 แผ่น สร้างการปล่อยก๊าซคาร์บอนประมาณ 500 กรัม หากคำนวณจากยอดขายรายสัปดาห์ของวง K-pop ชั้นนำ ยอดการปล่อยคาร์บอนอาจเทียบเท่ากับการเดินทางรอบโลก 74 ครั้ง
แคมเปญการตลาดและความนิยมซีดี
ถึงแม้แฟนเพลงจำนวนมากจะฟังเพลงผ่านสตรีมมิ่งแล้ว แต่ยอดขายซีดียังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยในปี 2023 อุตสาหกรรม K-pop ขายซีดีได้มากกว่า 115 ล้านแผ่น ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ยอดขายทะลุ 100 ล้านแผ่น การส่งเสริมการขายผ่านแคมเปญ เช่น การแถม “โฟโต้การ์ด” รุ่นลิมิเต็ด หรือโอกาสลุ้นวิดีโอคอลกับศิลปิน กลายเป็นแรงจูงใจให้แฟนเพลงซื้อซีดีมากขึ้น นอกจากนี้ อัลบั้มบางชุดยังออกแบบให้มีหลายปก เพื่อเพิ่มยอดขาย
โรซา เดอ จอง แฟนเพลง K-pop อีกรายกล่าวว่า การซื้ออัลบั้มเปรียบเสมือนการซื้อลอตเตอรี่ เพราะแฟนๆ ต้องการโอกาสในการได้ของสะสมหรือสิทธิพิเศษจากศิลปิน แต่กลับทำให้เกิดขยะพลาสติกสะสมในที่สาธารณะ เช่น ถนนและบันไดในกรุงโซล
การเรียกร้องให้ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม
กลุ่ม Kpop4Planet ที่ก่อตั้งโดยแฟนเพลงชาวอินโดนีเซียในปี 2020 เริ่มรณรงค์ให้บริษัทบันเทิงลดการผลิตซีดีพลาสติก พวกเขาจัดการประท้วงและรวบรวมลายเซ็นเพื่อยื่นคำร้องให้บริษัทลดการใช้วัสดุพลาสติกและเปลี่ยนวิธีการตลาดที่กระตุ้นการบริโภค
HYBE บริษัทผู้จัดการวง BTS ระบุว่า บริษัทพยายามใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการผลิตอัลบั้มและสินค้า แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม ด้านกระทรวงสิ่งแวดล้อมของเกาหลีใต้พยายามลดการผลิตซีดีโดยการเก็บค่าปรับสำหรับการสร้างขยะพลาสติกตั้งแต่ปี 2003 แต่ค่าปรับเพียง 2 พันล้านวอน (ประมาณ 143,000 ดอลลาร์) ในปี 2023 กลับไม่มีผลกระทบมากนัก
แฟนเพลงยังคงสนับสนุนศิลปิน
คิม นา-ยอน ยืนยันว่า แม้เธอจะวิพากษ์วิจารณ์บริษัทบันเทิงเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อม แต่เธอไม่สามารถบอยคอตศิลปินได้ เพราะแฟนเพลงทุกคนต้องการเห็นศิลปินของตนประสบความสำเร็จ เธอเชื่อว่าปัญหานี้ต้องเริ่มแก้ไขจากการตลาดและการผลิตของบริษัทโดยตรง ไม่ใช่ตัวศิลปิน
อนาคตของอุตสาหกรรม K-pop และสิ่งแวดล้อม
ในขณะที่ยอดขายอัลบั้มพุ่งสูงขึ้น ความจำเป็นในการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตเพื่อลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมกลายเป็นความท้าทายใหญ่ของอุตสาหกรรม K-pop แฟนเพลงและกลุ่มเคลื่อนไหวต่างหวังว่าบริษัทบันเทิงจะเริ่มหันมาใช้แนวทางที่ยั่งยืนมากขึ้น โดยไม่กระทบต่อความนิยมของศิลปินและความสุขของแฟนเพลงทั่วโลก
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : the jakarta post
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.