เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2567 นายชำนาญ ปานทอง ผู้จัดการปางช้างแม่ริม ได้เข้าตรวจสอบและสำรวจซากช้างที่ถูกกระแสน้ำพัดลงมาจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่ปางช้าง Elephant Nature Park มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม ในอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ โดยพบช้างตัวแรกในสภาพนอนจมอยู่ในกองเศษไม้และกิ่งไม้ที่มากับกระแสน้ำ หลังจากตรวจสอบไมโครชิพที่ติดกับตัวช้างแล้วพบว่าเป็น “พังพลอยทอง” ช้างเพศเมียอายุ 40 ปี ซึ่งตาบอดทั้งสองข้าง
ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้เดินสำรวจเพิ่มเติม พบซากช้างอีกหนึ่งเชือกในระยะห่างจากจุดแรกประมาณ 300-500 เมตร ชื่อว่า “พังฟ้าใส” หรือ “พังวันเฉลิม” ช้างเพศเมียอายุ 16 ปี ซึ่งเป็นช้างในความดูแลของมูลนิธิเดียวกัน สภาพซากช้างทั้งสองมีบาดแผลหลายจุด คาดว่าน่าจะเกิดจากการถูกกระแทกกับโขดหินขนาดใหญ่ในลำน้ำแตง โดยเฉพาะบริเวณงวงของช้างฟ้าใสที่มีเลือดไหลออก เนื่องจากถูกกระแทกอย่างรุนแรง ทำให้ไม่สามารถต้านทานกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากได้
พระครูโอ๊ต วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นนักอนุรักษ์ช้าง ได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุเพื่อทำพิธีขอขมาวิญญาณช้างทั้งสองเชือก พระครูโอ๊ตได้ทำการวางผ้าสีแดงบนร่างของช้างตามพิธีกรรมท้องถิ่น และได้จัดการปรึกษาหารือกับผู้เกี่ยวข้องว่าไม่จำเป็นต้องทำการผ่าชันสูตรซากช้าง แต่จะดำเนินการฝังซากช้างในบริเวณที่พบ โดยคาดว่าการฝังซากช้างทั้งสองจะเสร็จสิ้นในช่วงค่ำของวันนี้
เหตุการณ์น้ำท่วมในอำเภอแม่แตงครั้งนี้เกิดจากน้ำป่าที่ไหลหลากเข้ามาอย่างรวดเร็ว ทำให้ช้างทั้งสองที่อยู่ในศูนย์ธรรมชาติช้างไม่สามารถรับมือได้และถูกกระแสน้ำพัดหายไปไกลจากศูนย์ธรรมชาติถึง 5 กิโลเมตร ก่อนที่ร่างจะถูกพัดมาเกยบริเวณใกล้กับสิบแสนรีสอร์ทแอนด์สปา บริเวณแก่งกี๊ด ซึ่งเป็นจุดอันตรายที่เต็มไปด้วยโขดหินขนาดใหญ่
จากการตรวจสอบพบว่า แรงกระแทกจากกระแสน้ำที่พัดพาช้างมานั้นรุนแรงมาก แม้แต่ท่อนไม้ใหญ่ยังถูกกระแทกจนแตกเป็นเสี่ยง ๆ จึงเป็นไปได้ว่าช้างทั้งสองเชือกหมดแรงและไม่สามารถว่ายต่อได้ ประกอบกับความเชี่ยวของกระแสน้ำทำให้พวกมันไม่สามารถประคองตัวได้จนถูกพัดกระแทกกับโขดหิน
นายชำนาญ ปานทอง เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้สร้างความเสียหายและความสูญเสียครั้งใหญ่ให้กับปางช้าง เพราะช้างทั้งสองเชือกเป็นช้างที่อยู่ในความดูแลมานาน โดยเฉพาะพังพลอยทองที่มีสภาพร่างกายอ่อนแอและบอดทั้งสองข้าง การที่จะช่วยเหลือพวกมันได้ทันท่วงทีในสภาพน้ำป่าที่รุนแรงเช่นนี้เป็นเรื่องยากมาก
ทั้งนี้ ทางมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อมได้แสดงความเสียใจต่อการสูญเสียช้างทั้งสอง และขอความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ หากพบเห็นสัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่หรือต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม สามารถแจ้งได้ที่มูลนิธิหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือดำเนินการได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
ทางมูลนิธิจะดำเนินการจัดพิธีอำลาช้างทั้งสองเชือกอย่างเรียบง่าย และขอให้วิญญาณของพังพลอยทองและพังฟ้าใสได้ไปสู่สุคติ ท่ามกลางความโศกเศร้าของเจ้าหน้าที่และผู้ที่รักและผูกพันกับช้างทั้งสองอย่างลึกซึ้ง.
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.