เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ประกาศนโยบายปลดล็อกเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์เพื่อเศรษฐกิจ โดยเน้นไปที่ตัวเงินตัวทองและนกแอ่น ซึ่งได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรและผู้ประกอบการสามารถใช้ประโยชน์จากสัตว์เหล่านี้ได้อย่างถูกกฎหมายและมีมาตรการป้องกันการลักลอบจำหน่าย
ปรับปรุงกฎหมายเพื่อความยั่งยืน
คณะกรรมการได้เห็นชอบให้มีการจัดทำกฎหมายลำดับรองตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า รวม 12 ฉบับ เพื่อกำหนดแนวทางให้ผู้ประกอบการสามารถเลี้ยงสัตว์คุ้มครอง เช่น ตัวเงินตัวทอง ได้เพื่อเศรษฐกิจและการอนุรักษ์ ในขณะเดียวกันก็มีการกำหนดข้อบังคับด้านสุขอนามัยและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการเลี้ยงสัตว์เหล่านี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชน
นโยบายการเลี้ยงตัวเงินตัวทอง
การประชุมคณะกรรมการได้เห็นชอบให้ตัวเงินตัวทองเป็นสัตว์ที่สามารถเลี้ยงเพื่อวัตถุประสงค์ทางเศรษฐกิจได้ โดยปัจจุบันมีความต้องการในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสามารถเลี้ยงเป็นสัตว์สวยงามและมีศักยภาพในการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ซึ่งมาตรการนี้เป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจและลดการลักลอบค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย
ความสำคัญของการเลี้ยงนกแอ่นกินรัง
นอกจากตัวเงินตัวทองแล้ว นกแอ่นกินรังและนกแอ่นรังดำก็ได้รับการบรรจุในนโยบายดังกล่าว โดยอนุญาตให้เก็บรังนกแอ่นเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมาย นับเป็นการตอบสนองความต้องการของตลาดที่มีรังนกแอ่นเป็นที่ต้องการสูง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพและโภชนาการ
สร้างความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจกับการอนุรักษ์
นโยบายใหม่จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนี้ ไม่ได้เพียงแค่เพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างความสมดุลระหว่างการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติกับการอนุรักษ์สัตว์ป่าในระยะยาว การออกกฎหมายใหม่ทั้ง 12 ฉบับนี้เป็นการป้องกันการลักลอบใช้ทรัพยากรธรรมชาติและยังช่วยเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนโดยไม่กระทบต่อระบบนิเวศ
ข้อบังคับเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์ป่าคุ้มครอง
การเลี้ยงสัตว์ป่าคุ้มครองจะต้องมีการขออนุญาตและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เพื่อให้สอดคล้องกับข้อบังคับด้านสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัย อีกทั้งยังกำหนดอัตราเรียกเก็บค่าบริการและค่าใช้จ่ายสำหรับการขออนุญาต เพื่อควบคุมการใช้งานและให้เป็นไปตามมาตรฐานของกฎหมาย
ประโยชน์ต่อเศรษฐกิจในระยะยาว
การเปิดโอกาสให้เลี้ยงสัตว์เหล่านี้ได้จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในภาคการเกษตรและการท่องเที่ยว ซึ่งสามารถดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศได้ รวมถึงการส่งออกผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าเหล่านี้ยังเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างรายได้ให้กับชุมชน
ก้าวต่อไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยืนยันว่าจะติดตามผลกระทบของนโยบายนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าการใช้ประโยชน์จากสัตว์ป่าคุ้มครองจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม การพัฒนานี้เป็นก้าวสำคัญในการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติกับการส่งเสริมเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาให้ความเห็นชอบกฎหมายลำดับรองประกอบ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ในความรับผิดชอบของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมประมง รวม 12 ฉบับ เช่น
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม-ประเทศไทย
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.