
เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2567 นายทองอยู่ คงขันธ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย (คนใหม่) เปิดเผยว่า สหพันธ์ฯ กำลังประสานขอเข้าพบนาย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อหาแนวทางรับมือทุนจีน เข้ามาตั้งคลังส่งสินค้า แล้วเปิดกิจการขนส่งเองอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีการนำเข้ารถบรรทุกจากจีนเข้ามาใช้งานเอง ส่งผลให้การจ้างงานผู้ประกอบการขนส่งไทยลดน้อยลง
โดยในที่ประชุมสหพันธ์การขนส่งมีมติ ยังไม่ขึ้นราคาค่าขนส่งเพิ่มจากเดิมที่เคยขึ้น 3-9% ก่อนหน้านี้ และจะยังไม่มีการเคลื่อนไหวของคาราวานม็อบรถบรรทุกเร็วๆ นี้เช่นกัน แต่จะมีการเคาะ 2 แนวทาง ดังนี้
1.สหพันธ์การขนส่งจะขอเข้าพบ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โดยคาดว่าจะเป็นช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อหารือรายละเอียดว่าทางกระทรวงพลังงานจะทำอย่างไรต่อไปกับโครงสร้างพลังงานทั้งระบบ โดยเฉพาะการเดินโครงสร้างแก้ไขข้อกฎหมายต่างๆ รวมถึงทางสหพันธ์การขนส่งต้องการไปให้กำลังใจนายพีรพันธุ์ด้วย
2.สหพันธ์การขนส่งเตรียมขอเข้าพบหารือกับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อหาหาแนวทางร่วมกันว่าทางกระทรวงคมนาคมจะมีแนวทางอย่างไรที่จะช่วยสหพันธ์การขนส่งในการเยียวยากลุ่มรถป้ายทะเบียนสีเหลืองขนส่งสาธารณะที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซลที่แพงขึ้นได้บ้าง ซึ่งคาดว่าจะขอเข้าพบกลางเดือนสิงหาคมนี้
นายทองอยู่กล่าวว่า สถานการณ์ของการวิ่งรถบรรทุกของสมาชิกสหพันธ์การขนส่งนั้น ปัจจุบันภาพรวมค่อนข้างซบเซา รถบรรทุกเกือบ 50% ของสมาชิกต้องจอด ด้วยสาเหตุจากผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซลที่แพงขึ้น งานจ้างขนส่งลดลง และหลังจากมีการปรับค่าขนส่งขึ้น 3-9% ส่งผลให้ผู้ประกอบการบางรายสู้ไม่ไหว ขอยุติการเดินรถ
“หนึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้กิจการรถบรรทุกไทยซบเซาคือ การเข้ามาของพลอตฟอร์มต่างชาติที่เข้ามาตั้งคลังส่งสินค้าเอง เช่น ผู้ประกอบการชาวจีน ที่เปิดกิจการขนส่งอย่างเต็มรูปแบบ รวมทั้งนำเข้ารถบรรทุกจากต่างประเทศเข้ามาใช้งานเอง จึงส่งผลทำให้การจ้างผู้ประกอบการขนส่งรถบรรทุกในไทยลดน้อยลง” นายทองอยู่กล่าว
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.