คอลัมน์ #ฅนเจียงฮาย EP.02 : เมื่อยิ่งพยายามหนีห่างจากเสียงดนตรี เหมือนยิ่งใกล้มันไปเรื่อย ๆ

 
ฅนเจียงฮาย : Luis Phanpum
 
เป็นใครมาจากไหน เล่าให้ฟังหน่อย? : จริง ๆ ผมเรียนที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เกิดที่จังหวัดนนทบุรีเติบโตที่นู่นแล้วก็กลับมาอยู่จังหวัดเชียงรายได้สัก 4 ปีครับ มัธยมก็เรียนเตรียมอุดมศึกษาแม่เป็นคนที่นี่ (เชียงราย) แล้วก็มีญาติอยู่ที่นี่ครับ เล่นดนตรีมาตั้งแต่เรียนประถม แล้วก็หยุดเล่นตามภาษาเด็ก แล้วก็มาเล่นเป็นอาชีพจริง ๆ คือตอนที่มาอยู่เชียงราย ใช้หาเงินที่นี่ครับ
 
ก่อนหน้านี้ทำงานอะไรมาก่อน? : เคยทํางานตามสายงานอยู่ประมาณ 3-4 ปี เพราะเรียนจบสถาปัตย์ดีไซเนอร์ รับงานสถาปัตย์ ทำอินทีเรีย (interior) ตกแต่งภายใน ไม่ได้เล่นดนตรี ไม่ได้ร้องเพลงเลย ซึ่งทํางานเกี่ยวกับ 3D ทางสายวิชาชีพที่เรียนมา หลังจากนั้นผมก็ลาออกจากงาน ใช้ชีวิตต่ออีก 2-3 เดือน ที่กรุงเทพฯ ก็ใช้เงินที่มีอยู่เท่าที่เหลือตอนออกจากงานมา ก็ใช้ชีวิตไปเรื่อย ๆ ไม่ได้ทําอะไรให้เป็นประโยชน์อยู่อย่างนั้น
 
 
วันนึงตื่นขึ้นมาเราก็ไม่เข้าใจตัวเอง คนอื่นก็ไม่เข้าใจเรา แต่ว่าทางออกของเรา เราแค่รู้ว่าอยากไปลําบากนิดนึง อยากไปที่ ๆ ไม่มีใครรู้จักเราเยอะ ไปลองดูอะไรใหม่ ๆ ไม่ต้องเอาอะไรไปเยอะ ผมมาที่นี่ (เชียงราย) คิดง่าย ๆ ว่าเฮ้ย! ต้องมาที่เชียงรายแล้ว ก็คือเราคิดว่ามันน่าจะไม่ยากมากเพราะว่าเรามีญาติอยู่นี่ และรู้แค่ว่าแม่มาเที่ยวบ่อยปีละครั้ง สองครั้งอะไรอย่างนี้ เรารู้ว่าเรามาเที่ยวได้ก่อนแน่นอน
 
 
มาด้วยกระเป๋า ที่มีโน๊ตบุ๊ค กีต้าร์ กับมอเตอร์ไซค์ เอาไปใส่รถไฟที่หัวลําโพง ซื้อตั๋วลงที่เชียงใหม่ พอถึงแล้วก็ขี่จากเชียงใหม่มาเชียงราย จำได้ว่าลงจากรถไฟมาตี 3 ที่เชียงใหม่ ขับมอเตอร์ไซค์มาเรื่อย ๆ กว่าจะมาถึงเชียงรายก็ฟ้าขึ้นแล้วอะ ตาสว่างครับ ถึงที่นี่เช้าประมาณ 7 โมง 8 โมง แล้วก็ยังไม่คิดอะไรก็เที่ยวก่อนแล้วก็ไปบ้านยายที่ อ.เวียงชัย
 
 
แล้วเรื่องดนตรี? : ส่วนเรื่องดนตรีมันมาเริ่มต่อที่นี่ คือเราเล่นกีต้าร์เป็นอยู่แล้ว เราไม่ได้ร้องเพลงด้วย ก็ใช้เวลาสักพักนึง แล้วผมก็มารู้ว่าตัวเองชอบชากาแฟ และมีญาติที่นี่ก็ทําชาเราก็เห็นโซเชียล ก็เฮ้ยไปนี่ดีกว่าไปลองทําร้านชากาแฟ โดยร้านแรกที่ไปทำคือร้านสวรรค์บนดิน ทำปีกว่าก็ช่วงโควิดผมเลยออกมา แล้วก็เปลี่ยนร้านไปเรื่อย ๆ ครับ
 
 
มาเล่นดนตรีจริง ๆ จากพี่ที่เป็นลูกค้าที่ร้าน เขาจำเราได้จากโซเชียลรู้ว่าเราเป็นนักดนตรีประมาณนั้น เขาก็มีเถียง ๆ กันกับแฟนเขา เหมือนจำเราได้ ว่าแบบใช่ไม่ ใช่ไม่ใช่ อยู่แบบนั้น ตอนเรามาเสิร์ฟเขา คือครอบครัวผมเป็นครอบครัวนักดนตรีครับ ตอนที่พี่เขาทักคือเรารู้ว่าคงจะต้องเป็นคนที่รู้จักเราจริง ๆ ถึงจะรู้ว่าเราเป็นลูกใครอะไรประมาณนั้น คือปกติที่เคยเจอจะถูกทักว่าใช่ญาติของศิลปินคนนึงที่มีชื่อเสียงหรือเปล่า (ญาติคือ แมว จิรศักดิ์ ปานพุ่ม) แต่ว่าพี่คนนี้คือรู้จักพ่อผมเลย เพราะพ่อผมก็คือ “เล็ก ทีโบน” มือกลอง พ่อผมตีกลองประมาณนั้น ตอนนั้นผมก็เลยบอกว่าใช่ เขาก็เลยพามาที่นี่ ผมก็ถามว่าจําผมได้จากไหน เขาบอกพี่ไม่เล่นเฟซบุ๊กแต่เพื่อนเล่นและตีกลองรู้จักกับพ่อน้องในเฟซบุ๊ก แล้วก็เคยเห็นเอ็งกับพ่ออะเล่นดนตรีไปด้วยกัน ผมก็เลยแบบเฮ้ยเขาจําได้!
 
 
 
ผมก็เลยแบบเออโอเค ผมมาที่นี่ตอนแรกเล่นเพลงสากลอย่างเดียวเลย เมื่อก่อนร้านชื่อนอนนั่งเล่น ค่อย ๆ หัดมาเรื่อย ๆ ไม่ได้ร้องดีแบบนี้ตั้งแต่แรก ทุกวันนี้ก็ไม่ได้คิดว่าดีนะครับ แต่ตอนที่มาแจมคือแจมอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง เรามาแบบ 3 -4 เพลง แล้วก็กินอะไรก่อนกลับบ้าน ไม่ได้เงินด้วย มาแจมทุกวันอังคาร มันเป็น activity ที่รู้สึกว่ามันเป็น activity ที่ดีอะ
 
เราพยายามหนีมัน (ดนตรี) ช่วงตอนเรียนสถาปัตย์ คือเราไปเรียนสถาปัตย์เพราะเราคิดว่ามันหาเงินง่าย แล้วก็หาเงินได้เร็ว เราคิดแค่ว่าเราไม่เก่งแบบพ่อเรา ต่อให้แบบพอเราตีกลอง เราไปเรียนกลองเลยวันนึงเราก็เจอแบบเอ้ย “ไม่เท่าพ่อหรอก” คือยังไงเราคงเห็นลูกหลานศิลปินดาราส่วนใหญ่ มีคํานี้ทุกคน คือมันอยู่ที่ว่าใครจะผ่านไปได้ใครจะผ่านไปไม่ได้
.
ถ้าแบบว่ามันต้องเป็นเงินเดือนแล้วนะ มันจะต้องเป็นเงินเท่าไหร่ มันได้กี่เดือน ก็จริง ๆ ถ้าทําแบบนั้นจริงจังประมาณปีเดียวครับ ปีเดียว แต่ถ้าเล่นมาเรื่อย ๆ โดยไม่เคยมานับเงินอยู่ 4 ปี กลางวันเรายังมีงานร้านกาแฟ แล้วก็ทํากลางวันเสร็จกลับบ้านเปลี่ยนชุดเล่นดนตรี
.
 
ถ้าถามถึงสิ่งที่อยากเปลี่ยนมากที่สุด? : ถ้าสิ่งที่อยากเปลี่ยนอย่างเดียว ที่มีผลถึงขนาดว่าแบบเกี่ยวกับวงการดนตรี ก็คงอยากให้ทุกคนเปลี่ยนเรื่องมุมมองการฟังเพลง เราเห็นว่านักท่องเที่ยวมาเชียงรายกันเยอะครับ แต่จริง ๆ แล้วเชียงรายถึงจะไม่ได้เที่ยวทั้งปี แต่มันมีหลายอย่างที่ผลักดันได้นะ เราก็มองเห็นว่ามุมมองการฟังเพลงมันยังไม่กว้างพอ ดนตรีทุกที่เลย มีร้านเยอะมาก เราแค่บอกว่าอยากให้ฟังดนตรีจริง ๆ ฟังสิ่งที่เราเรียบเรียงมา ไม่อยากให้ทุกคนมาเสียใจในสิ่งที่ขอเพลงนักร้องแล้วเขาเล่นไม่ได้ แล้วก็หายไป
 
ฅนเดินเรื่องโดย : “หลุยส์” – นักดนตรีกลางคืนร้านโรงสี เชียงราย
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME