เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2567 นายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ กล่าวว่า เท่าที่คุยกับผู้ประกอบการ และสถาบันการเงิน พบว่า มาตรฐานสินเชื่อรถยนต์โดยรวมไม่ได้เปลี่ยน แต่ที่เปลี่ยนคือคุณภาพของลูกหนี้ที่จะมาขอกู้แย่ลงทำให้การปฏิเสธสินเชื่อมีมากขึ้น
ปัจจุบันราคาของรถยนต์มือสองถูกกดดันอย่างมาก เห็นได้ว่ามีราคาลดลงทำให้ตลาดซบเซา ปกติจะมีผู้ซื้อกลุ่มหนึ่งที่จะซื้อรถใหม่โดยเอารถเก่าไปตีราคา เพื่อให้ได้เงินมาเติมซื้อรถใหม่ แต่เมื่อราคาขายรถมือสองตกต่ำ ทำให้ผู้ซื้อต้องเพิ่มเงินมากขึ้นถึงจะซื้อรถใหม่ ส่งผลให้ความสามารถในการซื้อรถใหม่ลดลงไปด้วย
สำหรับรถไฟฟ้า หรือรถอีวีที่เข้ามาในประเทศไทยกลายเป็นเพิ่มความยากลำบากให้อุตสาหกรรมรถยนต์ไปด้วย ดูได้จากการแข่งขันด้านราคาของรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่หรือราคารถยนต์ที่มีส่วนลดเป็นหลักแสนบาท ทำให้คนที่มีกำลังซื้อรอดูก่อนว่าราคาจะปรับลดลงกว่าเดิม หรือไม่ ในเวลาเดียวกัน ผู้ซื้อก็มีความกังวลว่า ถ้าซื้อไปวันนี้ และต้องการขายในอนาคต อาจจะได้ราคาขายที่น้อยลง สร้างความลังเลสำหรับผู้ซื้อ ตลาดส่งออกรถปิคอัพของไทยไปต่างประเทศก็ชะลอลง สาเหตุจากต่างประเทศยังมีความต้องการไม่มากอย่างที่คาดไว้
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน กล่าวต่อไปว่า แนวโน้มข้างหน้ามีโอกาสที่จะค่อย ๆ ดีขึ้นทั้งตลาดโลกและตลาดในประเทศ แต่อาจจะต้องใช้เวลาอีกสักพัก โดยประเด็นที่เป็นปัญหาเชิงวัฎจักรจะใช้เวลาไม่นานในการฟื้นตัว เช่น เรื่องการส่งออก แต่หากเป็นประเด็นปัญหาเชิงโครงสร้างจะใช้เวลานานกว่านั้น เช่น เรื่องรถยนต์ไฟฟ้าที่ต้องให้เวลาปรับตัว ซึ่งในต่างประเทศก็เจอปัญหานี้เช่นกัน
การส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการเติบโตของภาคการส่งออกมีทิศทางชะลอลงต่อเนื่องตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2566 การส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนเป็นหมวดสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตของการส่งออกของไทย โดยมีน้ำหนักที่ 16% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าทั้งหมดในปี 2566 นอกจากนี้ มีสัดส่วนต่อการเติบโตของภาคส่งออกคิดเป็นกว่าครึ่งหนึ่งของการขยายตัวของการส่งออกสินค้าทั้งหมดในปี 2555-2561
โดยภาพรวมการส่งออกของไทยฟื้นตัวช้าจากปัญหาเชิงโครงสร้าง และถูกซ้ำเติมจากแนวโน้มการส่งออกของรถยนต์และชิ้นส่วนที่หดตัว โดยในปี 2567 การส่งออกรถยนต์ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของอุปสงค์ในต่างประเทศโดยเฉพาะตลาด อาเซียน
ขณะเดียวกันยังมีความเสี่ยงจากปัญหา รถยนต์ล้นตลาดของจีน ซึ่งจะกระทบต่อ ความสามารถในการแข่งขันของไทย รวมถึงการเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดของรถยนต์ EV ในระยะข้างหน้า ดังนั้น การปรับตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย และเร่งผลักดันให้เกิดการมีส่วนร่วมในห่วงโซ่การผลิตรถยนต์ EV ในอนาคต จึงเป็นเรื่องสำคัญ
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.