รัฐบาลเดินหน้าจัดระเบียบสังคม มุ่งสร้างความมั่นคงและปลอดภัยให้ประชาชน

กระทรวงมหาดไทยขับเคลื่อนนโยบายจัดระเบียบสังคม เฝ้าระวังและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด

กรุงเทพฯ, 1 มีนาคม 2568 – นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ออกข้อสั่งการให้มีการขับเคลื่อนการจัดระเบียบสังคมอย่างเข้มข้น โดยเน้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด ครอบคลุมประเด็นสำคัญ เช่น สถานบริการ ยาเสพติด การค้ามนุษย์ การครอบครองอาวุธปืน การพนัน และเฝ้าระวังกลุ่มผู้มีอิทธิพล พร้อมกำหนดให้มีการรายงานผลการดำเนินงานทุกเดือน ซึ่งจะถูกนำมาประกอบการประเมินผลปฏิบัติราชการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

มาตรการจัดระเบียบสังคมเพื่อความปลอดภัยของประชาชน

นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยได้ออกแนวทางปฏิบัติเพื่อขับเคลื่อนนโยบายจัดระเบียบสังคม โดยสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการระดับกรม และหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ดำเนินมาตรการอย่างเข้มงวดในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของตน

แนวทางดำเนินการที่สำคัญ

  1. การควบคุมและตรวจสอบสถานบริการและสถานบันเทิง
    • ตรวจสอบใบอนุญาตการดำเนินกิจการ
    • บังคับใช้มาตรการควบคุมอายุผู้เข้าใช้บริการ
    • ป้องกันการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและอาชญากรรม
  2. การปราบปรามและป้องกันยาเสพติด
    • ดำเนินการปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติด
    • สนับสนุนมาตรการฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดให้สามารถกลับคืนสู่สังคมได้
  3. การควบคุมการค้ามนุษย์และแรงงานผิดกฎหมาย
    • ตรวจสอบและดำเนินคดีกับนายจ้างที่ใช้แรงงานผิดกฎหมาย
    • เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์
  4. การควบคุมอาวุธปืนและอาชญากรรมรุนแรง
    • ตรวจสอบและดำเนินคดีกับผู้ครอบครองอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย
    • ควบคุมการจำหน่ายและนำเข้าอาวุธปืนอย่างเข้มงวด
  5. การจัดการกับปัญหาการพนันผิดกฎหมาย
    • ปิดกั้นช่องทางการเล่นพนันออนไลน์ที่ผิดกฎหมาย
    • เข้มงวดกับการเปิดบ่อนการพนันที่ไม่มีใบอนุญาต
  6. การติดตามและควบคุมผู้มีอิทธิพลในพื้นที่
    • บังคับใช้กฎหมายเพื่อจัดการกลุ่มผู้มีอิทธิพล
    • สืบสวนและจับกุมเครือข่ายที่กระทำผิด

การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง

เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้ นายอำเภอ ปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ร่วมสนับสนุนและบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ของตน โดยกำหนดให้มีการสืบสวน ตรวจสอบ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันและปราบปรามปัญหาสังคมที่ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อย

การรายงานผลและการประเมินผลการดำเนินงาน

หนึ่งในมาตรการสำคัญคือการ ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานทุกเดือน โดยหน่วยงานในพื้นที่ต้องรายงานความคืบหน้าต่อกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้สามารถประเมินผลลัพธ์ของนโยบายได้อย่างเป็นรูปธรรม และปรับปรุงแนวทางการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ข้อคิดเห็นจากสองมุมมอง

  • ฝ่ายที่สนับสนุน: เห็นว่ามาตรการนี้เป็นแนวทางที่จำเป็นต่อการจัดระเบียบสังคม เนื่องจากช่วยลดปัญหาอาชญากรรม สร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน และเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายในระดับท้องถิ่น
  • ฝ่ายที่กังวล: มีความเห็นว่าการบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดมากเกินไป อาจกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน และต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดการใช้กฎหมายโดยมิชอบหรือการดำเนินคดีที่ไม่เป็นธรรม

สถิติที่เกี่ยวข้องกับข่าว

จากข้อมูลของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กระทรวงมหาดไทย ในปี 2567 พบว่า:

  • คดีอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับปี 2566
  • จำนวนคดียาเสพติดที่ถูกจับกุมเพิ่มขึ้น 8%
  • การพนันออนไลน์ผิดกฎหมายมีมูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาทต่อปี
  • ประเทศไทยถูกจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่ต้องเฝ้าระวังการค้ามนุษย์ระดับ Tier 2 ตามรายงานของสหรัฐอเมริกา

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานตำรวจแห่งชาติ / กระทรวงมหาดไทย / กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME