ศุภมาส” ระดมพลังแพลตฟอร์มโลก สื่อออนไลน์ สมาคมวิชาชีพ เดินเครื่องประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีฯ ให้สมพระเกียรติที่สุด เปิดยุทธศาสตร์ “เล่าเรื่อง Unseen” เจาะลึกพระราชกรณียกิจที่โลกรู้จักน้อย สื่อสารตรงใจคนไทยทุกเจนเนอเรชัน

กรุงเทพฯ,19 พ.ย. 2568 – ทำเนียบรัฐบาล นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ นำทีมบูรณาการครั้งประวัติศาสตร์ ดึงกำลังจากแพลตฟอร์มระดับโลก สื่อออนไลน์ชั้นนำ และเครือข่ายสมาคมวิชาชีพสื่อ ร่วมห้องประชุมกำหนดยุทธศาสตร์แบบ “เร็ว ถูกต้อง เข้าถึงได้” ย้ำใช้ “กรมประชาสัมพันธ์” เป็น Data Center และ “เพจ พระลาน” เป็นแหล่งอ้างอิงหลัก ควบคู่แคมเปญเล่าเรื่อง “พระราชกรณียกิจ Unseen” เพื่อเชื่อมโยงความผูกพันระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชนในยุคดิจิทัล โดยมีตัวแทนจาก Facebook Thailand, TikTok Thailand, Line Today, Wisesight, AIS ตลอดจนสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์และสมาพันธ์สื่อมวลชนทุกแขนงเข้าร่วมอย่างคับคั่ง

เมื่อ “ราชประเพณี” พบ “สื่อความเร็วสูง” โจทย์ใหม่ของการสื่อสารสาธารณะ

การสื่อสารงานพระราชพิธีฯ ในโลกปัจจุบันมิได้วัดกันด้วย “ความเร็ว” เพียงอย่างเดียว หากแต่วัดด้วย “ความถูกต้อง” “ความงดงาม” และ “ความเหมาะสม” ที่ต้องประสานกลมกลืนกับจารีตอันทรงคุณค่า ขณะเดียวกันก็ต้องส่งสารให้ทันสมัย เข้าใจง่าย และเข้าถึงประชาชนได้ทุกแพลตฟอร์ม ในที่ประชุมวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล จึงเห็นภาพ “ทีมประเทศไทย” ในเวอร์ชันดิจิทัล  ภาครัฐเป็นแกนกลางข้อมูล ภาคเอกชนแพลตฟอร์มเป็นโครงข่ายคูณพลังการเข้าถึง และวิชาชีพสื่อเป็นด่านหน้าคุณภาพ จริยธรรม การตรวจสอบ

นางสาวศุภมาสระบุชัดว่า โจทย์สำคัญไม่ใช่เพียงการรายงานตามหมายกำหนดการ หากคือการ “เชื่อมโยงความผูกพัน” ให้ประชาชนทุกเจนเนอเรชันสัมผัสคุณค่าพระราชกรณียกิจอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะ “เรื่องที่โลกรู้จักน้อย” หรือ Unseen ที่ช่วยเติมเต็มภาพความทรงจำร่วมกันให้ครบถ้วนและร่วมสมัย

ไทม์ไลน์และบรรยากาศการประชุม  การระดมสมองที่เริ่มจากความตั้งใจเดียวกัน

ช่วงเช้า ปูกรอบยุทธศาสตร์

  • ประธานที่ประชุมชี้กรอบ “3 เสาหลัก”  ข้อมูลถูกต้อง, เล่าเรื่องเข้าใจง่าย, เข้าถึงได้จริงทุกแพลตฟอร์ม
  • เห็นพ้องกำหนด กรมประชาสัมพันธ์ (กรมปชส.) ทำหน้าที่ Data Center รวมศูนย์ข้อมูล ข่าว ภาพ วิดีโอ อินโฟกราฟิก และชุดคำถาม คำตอบมาตรฐาน (FAQ) เพื่อให้ทุกฝ่ายอ้างอิงตรงกัน
  • รับรอง เพจ  พระลาน” เป็น Reference Hub สำหรับสื่อและครีเอเตอร์ดึงข้อมูลไปผลิตซ้ำอย่างถูกต้องและงดงาม

ช่วงบ่าย ออกแบบการทำงานระดับปฏิบัติการ

  • แพลตฟอร์มโซเชียล (Facebook Thailand, TikTok Thailand, Line Today) นำเสนอวิธีเพิ่มการเข้าถึงโดยไม่ลดทอนความศักดิ์สิทธิ์ของเนื้อหา เช่น หน้ารวมแคมเปญ, ปักหมุด (pin) คอนเทนต์หลัก, เพลย์ลิสต์เรียนรู้, และการคัดกรองคำค้นหาที่ถูกต้อง
  • บริษัทข้อมูล โซเชียลลิสซันนิง (Wisesight) ร่วมออกแบบแดชบอร์ดติดตามความเข้าใจสาธารณะ สัญญาณสับสน บิดเบือน ตั้งคำถาม เพื่อส่งกลับไปยังทีมสื่อสารให้ตอบสนองได้ทันท่วงที
  • ผู้ให้บริการโครงข่าย (AIS) สนับสนุนการกระจายสัญญาณและพื้นที่สื่อสาธารณะบนเครือข่ายในช่วงสำคัญ
  • สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP) และสมาพันธ์สื่อ ร่วมวาง “มาตรฐานห้องข่าว” สำหรับการนำเสนอที่เคารพจารีต และคงหลักวิชาชีพสื่อมวลชน

บรรยากาศเป็นไปอย่างสร้างสรรค์และมีเอกภาพ ข้อเสนอของแต่ละฝ่ายมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกัน  ให้ข้อมูลชุดเดียวกันที่ถูกต้อง งดงาม และเข้าถึงได้ ถูกส่งต่อสู่ประชาชนอย่างกว้างไกลที่สุด

เสียงจากผู้กำหนดยุทธศาสตร์  ย้ำ “เร็ว ถูกต้อง เคารพ” และ “มนุษย์อยู่ในวงจร”

นางสาวศุภมาส กล่าวในที่ประชุมว่า

“ความท้าทายของเราคือการผสาน ‘ขนบธรรมเนียมโบราณราชประเพณี’ เข้ากับ ‘ความรวดเร็วของสื่อออนไลน์’ วันนี้เราได้รับความร่วมมือจากทุกแพลตฟอร์มที่จะช่วยกันกระจายเสียงแห่งความจงรักภักดีนี้ออกไปให้กว้างไกลที่สุด เราจะใช้ Influencer และเครือข่ายสื่อออนไลน์เป็นสะพานเชื่อมข้อมูลที่ถูกต้องจากกรมประชาสัมพันธ์ ไปสู่หน้าจอโทรศัพท์ของประชาชนทุกคน”

ถ้อยคำดังกล่าวตอกย้ำแกนคิดหลักของการสื่อสารครั้งนี้ ความเร็ว ต้องเดินคู่กับ ความถูกต้องและความเคารพ และทุกชิ้นงานต้องมี “มนุษย์ในวงจร” (Human-in-the-loop) กลั่นกรองความเหมาะสมก่อนเผยแพร่เสมอ

เนื้อหาหลัก  ยุทธศาสตร์ “เล่าเรื่อง Unseen” ทำไมจึงสำคัญ

“Unseen” ในที่นี้ หมายถึง พระราชกรณียกิจ พระราชดำริ เรื่องเล่าจากพื้นที่ ภาพจำเล็กๆ ที่ประทับอยู่ในใจประชาชน แต่ยังไม่เป็นที่รับรู้ในวงกว้าง การเล่าเรื่องกลุ่มนี้มีคุณค่าต่อสังคมอย่างน้อยสามประการ

  1. เติมภาพประวัติศาสตร์ให้สมบูรณ์ จากเรื่องใหญ่สู่รายละเอียดชีวิตประจำวันที่สะท้อนพระเมตตาและพระวิริยะอุตสาหะ
  2. สร้างสะพานระหว่างรุ่น คอนเทนต์แบบสั้น ย่อยง่าย มีบริบท จะช่วยให้คนรุ่นใหม่เข้าถึงสาระสำคัญได้รวดเร็ว ก่อนพาไปอ่าน/รับชมเวอร์ชันเต็มที่มีรายละเอียดลึก
  3. สื่อสารสู่โลกภายนอกได้อย่างสง่างาม การคัดเลือกประเด็นพร้อมคำบรรยายที่ถูกต้อง จะช่วยให้สื่อสากลและผู้ชมต่างชาติ “เข้าใจ” อย่างถูกทิศทาง

ด้วยเหตุนี้ แผน “เล่าเรื่อง Unseen” จึงถูกวางแบบ สองชั้น

  • ชั้นแรก  คลิป/ภาพ/อินโฟการ์ดความยาวสั้นมาก (ไมโคร คอนเทนต์) เพื่อดึงความสนใจและให้รู้ “แก่น”
  • ชั้นสอง  บทความ วิดีโอความยาวปานกลางไปจนถึงยาว (Storytelling เต็มรูป) ที่มาพร้อม เชิงอรรถ ที่มา คำอธิบายพิธี และลิงก์ไปยัง “เพจ  พระลาน” กับชุดข้อมูลกลางของกรมประชาสัมพันธ์

กลไกทำงาน  “กรมประชาสัมพันธ์ = Data Center” / “เพจ  พระลาน = Reference Hub”

ที่ประชุมได้วาง โครง Workflow เพื่อให้ข้อมูลเดินทางได้ เร็วแต่แม่นยำ ดังนี้

  • Data Center (กรมปชส.)  รวมชุดข้อมูลต้นน้ำทั้งหมด หมายกำหนดการ ภาพ วิดีโอที่ได้รับอนุญาต อินโฟกราฟิก มาตรฐานภาษา คำสะกด คำแปลเพื่อใช้สื่อสารกับต่างชาติ คู่มือการใช้งานสื่อ (do & don’t) ตลอดจนคำถาม คำตอบมาตรฐาน
  • Reference Hub (เพจ  พระลาน)  ทำหน้าที่เผยแพร่ข้อมูลกลางฉบับประชาชนและภาคสื่อ เป็น “ลิงก์สั้น” ที่สื่อและครีเอเตอร์สามารถอ้างถึง ซ้ำ และขยายผลได้อย่างมั่นใจว่า ข้อมูลตรงและเป็นฉบับล่าสุด
  • แพลตฟอร์ม สื่อ สมาคม  นำข้อมูลจาก Reference Hub ไปผลิต คอนเทนต์รูปแบบต่างๆ บนแพลตฟอร์มของตน โดยยึดชุดคำอธิบาย เครดิต ข้อกำกับจริยธรรมที่ตรงกัน

ผลที่คาดหวังคือ ลดปัญหา “ข้อมูลหลายฉบับ” ที่ทำให้ผู้ชมสับสน และ เพิ่มความราบรื่นของประสบการณ์รับสาร ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง

บทบาทแพลตฟอร์ม  ขยายการเข้าถึงอย่างเคารพ งดงาม

ตัวแทนจากแพลตฟอร์มต่างๆ ได้นำเสนอกลไกเฉพาะที่ช่วยคูณพลังการเข้าถึง โดยไม่ลดทอน “คุณค่าพิธี” เช่น

  • Facebook Thailand  สร้าง หน้าแคมเปญรวม (curated hub) ปักหมุดโพสต์หลัก จัดเพลย์ลิสต์วิดีโอ และสนับสนุนระบบแจ้งเตือนสำหรับคอนเทนต์ที่ผ่านการรับรอง
  • TikTok Thailand  เปิด เพลย์ลิสต์เรียนรู้ (learning playlist) จัดหมวด #Hashtag ทางการ และเครื่องมือ reminder สำหรับถ่ายทอดสด/ไลฟ์สำคัญ พร้อมแนวทางคัดกรองคำค้นให้สะท้อนคำอธิบายที่ถูกต้อง
  • Line Today  จัดทำหน้า “รวมบทความอธิบายพิธี ที่มา บริบท” เน้นสั้น ชัด เชื่อมต่อฉบับเต็ม
  • Wisesight  ตั้ง แดชบอร์ดโซเชียลลิสซันนิง คอยเฝ้าสัญญาณความเข้าใจผิดและคำถามที่พบบ่อย เพื่อส่งกลับไปยังกรมปชส.ปรับแต่งชุดคำอธิบาย
  • AIS  สนับสนุนพื้นที่สื่อบนโครงข่ายและระบบถ่ายทอดในช่วงเวลาสำคัญให้เข้าถึงผู้ชมได้ครอบคลุม

ทั้งหมดนี้จะยึดข้อมูลจาก กรมปชส. และ เพจ  พระลาน เป็นฐานเดียวกัน เพื่อให้ “ถ้อยคำ ภาพ คำบรรยาย” เดินไปในทิศทางเดียวกัน

มาตรฐานวิชาชีพและจริยธรรม  “เร็วได้ แต่ต้องไม่พลาด”

แม้โลกออนไลน์จะเคลื่อนที่เร็ว แต่ที่ประชุมยืนยัน สามหลักประกัน

  1. Human-in-the-loop  ทุกชิ้นงานต้องมีคนตรวจสอบความเหมาะสมก่อนเผยแพร่ โดยเฉพาะประเด็นอ่อนไหวทางวัฒนธรรม จารีต
  2. เครดิตชัดเจน  ทุกแพลตฟอร์ม สำนักข่าว ครีเอเตอร์ต้องให้เครดิตต้นทางชัดเจน “กรมปชส./เพจ  พระลาน” และ/หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมระบุวันที่ เวลาของข้อมูล
  3. คู่มือการใช้สื่อ (Do & Don’t)  กำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับภาพที่อนุญาต การตัดต่อที่เหมาะสม โทนภาษาที่ใช้ และการจัดวางโฆษณา/สปอนเซอร์เพื่อไม่ให้บดบังความสำคัญของพิธีการ

มาตรการเหล่านี้ทำหน้าที่เป็น “เบรกคุณภาพ” ควบคู่กับ “คันเร่งการเข้าถึง” เพื่อให้สารทุกชิ้น งดงามและรับผิดชอบ

กลยุทธ์การเข้าถึงผู้ชมหลากรุ่น  จากไมโครคอนเทนต์สู่สตอรีเต็มรูป

เพื่อให้เข้าถึงคนไทยทุกเจนเนอเรชัน ที่ประชุมวางแนวทาง สองชั้น หลายรูปแบบ

  • ไมโครคอนเทนต์  ภาพ คลิปสั้น อินโฟการ์ด ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมเสพสื่อยุคใหม่ ช่วย “เปิดประตู” ให้ผู้ชมสนใจ
  • สตอรีเต็มรูป  บทความยาว วิดีโอสารคดีสั้น สกู๊ปอธิบายที่เชื่อมกลับไปยัง “เพจ  พระลาน” และฐานข้อมูลของกรมปชส. เพื่อให้ผู้สนใจศึกษาลึกต่อ
  • ภาษา การแปล  จัดเตรียมคำอธิบายภาษาไทยที่อ่านง่าย และชุดคำแปลภาษาอังกฤษสำหรับสื่อสากล/ผู้ชมต่างชาติ เพื่อสะท้อนคุณค่าพระราชพิธีฯ อย่างเที่ยงตรง

บทบาทสื่อ สมาคมวิชาชีพ  ห้องข่าวที่เข้มแข็งคือรากฐานความน่าเชื่อถือ

สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP) และสมาพันธ์สื่อมวลชนทุกแขนง รับบทเป็น แกนกลางวิชาชีพ ทำงานสองชั้น

  1. ยกระดับคุณภาพเนื้อหา ตรวจแหล่งที่มา อธิบายบริบททางประวัติศาสตร์ จารีตให้เข้าใจง่าย และใช้ภาษามืออาชีพ
  2. สร้างมาตรฐานร่วม กำหนดแนวปฏิบัติเชิงบรรณาธิการสำหรับข่าวพิธีการสำคัญ (เช่น รูปแบบพาดหัว คำโปรย การใช้คำราชาศัพท์ และการยืนยันข้อมูลกับกรมปชส.)

ด้วยหลักการนี้ ห้องข่าวจะเป็น “ผู้คุมมาตรฐาน” ของสาร แม้จะกระจายผ่านแพลตฟอร์มที่หลากหลายเพียงใดก็ตาม

คำถามที่สังคมอยากรู้  ทำอย่างไรให้ “ไวรัล” โดยไม่ลดทอนคุณค่า

ที่ประชุมย้ำว่า เป้าหมายไม่ใช่ไวรัล แต่คือความเข้าใจที่ถูกต้อง อย่างไรก็ดี หากชิ้นงานมีส่วนช่วยให้คนจำนวนมากเข้าถึง “ด้วยความเคารพและความรู้ที่ถูกต้อง” ก็ถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่พึงประสงค์ แนวทางปฏิบัติที่เสนอ เช่น

  • ใช้ ภาพเล่าเรื่อง ที่สะท้อนบริบท มากกว่าภาพที่หวือหวา
  • ใส่ คำบรรยายมาตรฐาน จากฐานข้อมูลกลาง เพื่อให้แชร์ต่อไปยังชุมชนออนไลน์ได้โดยไม่สูญเสียความหมาย
  • จัดทำ FAQ/Fact-check คู่กันสำหรับประเด็นที่สังคมถามบ่อย ลดการตีความผิดพลาดซ้ำ

ความร่วมมือ “ภาครัฐ แพลตฟอร์ม สื่อ ประชาชน”  เส้นทางเดียวสู่เอกภาพ

โมเดลความร่วมมือที่เกิดขึ้นในวันนี้ เป็นตัวอย่างของ “ประชาสัมพันธ์เชิงสาธารณะ” ที่ ทุกฝ่ายเดินไปในทิศทางเดียว โดยมีหลักการร่วมกันคือ

  • ข้อมูลแหล่งเดียว (single source of truth)
  • กระจายหลายช่องทาง (multi-platform distribution)
  • มาตรฐานร่วม (shared ethics & style)
  • ตรวจ ตอบ ปรับปรุง (listening & feedback) แบบวันต่อวัน

หากเดินตามเส้นทางนี้ได้ต่อเนื่อง จะเกิด “ความสง่างามของสาร” ควบคู่กับ “ความพร้อมเพรียงของสังคม” ในการส่งเสด็จฯ ครั้งสำคัญ

 “ความร่วมสมัยที่ไม่ละทิ้งจารีต” คือหัวใจของภารกิจ

ความท้าทายของการสื่อสารงานพระราชพิธีฯ ในยุคดิจิทัล ไม่ได้อยู่ที่การเลือกแพลตฟอร์มหรือรูปแบบคอนเทนต์อย่างเดียว แต่อยู่ที่การรักษา สาระ ศักดิ์ศรี และความงาม ของจารีตให้ครบถ้วน พร้อมๆ กับการทำให้คนรุ่นใหม่ “เข้าใจและเข้าถึง” ด้วยภาษาของยุคสมัย
คำย้ำของนางสาวศุภมาสว่า “เนื้อหาถูกต้อง เข้าใจง่าย และเข้าถึงได้จริง” จึงมิได้เป็นเพียงสโลแกน แต่เป็น คำมั่นทางยุทธศาสตร์ ที่ทุกฝ่ายในห้องประชุมยินดีเดินไปด้วยกันโดยมีกรมประชาสัมพันธ์เป็นแกนกลางข้อมูล “เพจ  พระลาน” เป็นประตูสู่สาธารณะ และเครือข่ายแพลตฟอร์ม สื่อ สมาคม ครีเอเตอร์ เป็นแรงขับเคลื่อนสู่หัวใจประชาชน

เมื่อความพร้อมเชิงระบบมาบรรจบกับความตั้งใจเชิงคุณค่า ภารกิจการสื่อสารงานพระราชพิธีฯ ก็มีโอกาสบรรลุทั้ง “ความถูกต้อง” และ “ความประทับใจ” อันคู่ควร

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางสาวศุภมาส อิศรภักดี)
  • กรมประชาสัมพันธ์
  • เพจ  พระลาน
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News