
ประเทศไทย, 23 ตุลาคม 2568 — สัญญาณเตือนจากเงินเดือนรอบล่าสุด ข่าวสารทางเศรษฐกิจช่วงปลายปีอาจดูไกลตัวสำหรับหลายคน แต่รายงานเชิงลึก “เปิด Insight มนุษย์เงินเดือน เดอะแบกตัวจริง การเงินยุคนี้” ของทีเอ็มบีธนชาต (ทีทีบี) กลับสะท้อนภาพอีกมุมที่กระทบชีวิตประจำวันอย่างจัง นั่นคือ “ฐานะการเงินของมนุษย์เงินเดือน” ที่เปราะบางกว่าที่คิด และไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะผู้มีรายได้น้อย เมื่อข้อมูลชี้ชัดว่าแม้มีรายได้เกินหนึ่งแสนบาทต่อเดือน หลายคนก็ยังใช้ชีวิตแบบ “เดือนชนเดือน” ขณะเดียวกัน ผู้สูงอายุจำนวนมากยังจำเป็นต้องทำงานต่อ ทั้งที่ก้าวเข้าสู่วัยเกษียณแล้ว
รายงานดังกล่าวอาศัยฐานข้อมูลจากโปรแกรมตรวจสุขภาพการเงิน ttb financial health check ซึ่งเก็บข้อมูลเชิงพฤติกรรมของมนุษย์เงินเดือนกว่า 96,000 คน ระหว่างสิงหาคม 2566 – กุมภาพันธ์ 2568 เสริมด้วยฐานข้อมูลเครดิตและการวิเคราะห์เชิงระบบของหน่วยงานรัฐและเอกชน ภาพรวมทั้งหมดนำไปสู่คำถามใหญ่ที่สังคมไทยต้องตอบร่วมกันว่า “เราจะสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินให้แรงงานกินเงินเดือน ซึ่งเป็นฟันเฟืองหลักของเศรษฐกิจ ได้อย่างไร”
ภาพรวมเชิงตัวเลข รายได้สูงไม่เท่ากับมั่นคง
สาระสำคัญของรายงานชี้ว่า “รายได้สูงไม่ได้แปลว่าปลอดภัยทางการเงิน” อีกต่อไป
ตัวเลขเหล่านี้ชี้ชัดว่าโครงสร้างรายได้–รายจ่ายของคนทำงานไทยกำลังเปราะบางจากหลายปัจจัย ทั้งค่าครองชีพที่เร่งขึ้นเร็วกว่าค่าแรงจริง หนี้บริโภคที่สะสมยาวนาน และการขาด “ระบบกันสะเทือน” อย่างเงินออมฉุกเฉินและความคุ้มครองความเสี่ยงด้านสุขภาพ
คำอธิบายจากผู้เชี่ยวชาญฟันเฟืองเศรษฐกิจที่กำลัง “แบกหนัก”
นายนริศ สถาผลเดชา ประธานกลุ่มงาน Data และ Analytics ทีเอ็มบีธนชาต อธิบายว่า ประเทศไทยมีมนุษย์เงินเดือนราว 12.5 ล้านคน เป็นสัดส่วนประมาณ 30% ของแรงงานทั้งหมด แต่สร้างรายได้ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามากถึง 90% หรือกว่า 270,000 ล้านบาท/ปี ฟันเฟืองกลุ่มนี้จึงเป็น “เดอะแบกตัวจริง” ของระบบเศรษฐกิจ ทว่าในความเป็นจริง พวกเขาต้องเผชิญแรงกดดันรอบด้าน ทั้งหนี้สิน การขาดเงินออม และความคุ้มครองไม่เพียงพอ หากไม่เร่งสร้างภูมิคุ้มกัน ระยะกลางถึงยาวอาจกระทบการบริโภคครัวเรือนและความเชื่อมั่นโดยรวม
โจทย์หนี้ “จ่ายขั้นต่ำ” คือทางลัดสู่ต้นทุนดอกเบี้ยพุ่ง
หนึ่งในสัญญาณอันตรายที่รายงานเน้นย้ำคือพฤติกรรมชำระหนี้ “ขั้นต่ำ” จนเป็นกิจวัตร เฉพาะกลุ่มหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งคิดเป็น มากกว่าครึ่ง ของโครงสร้างหนี้มนุษย์เงินเดือน หากชำระขั้นต่ำเพียงระยะสั้น ต้นทุนดอกเบี้ยสะสมอาจพุ่งชัน ทับซ้อนกับรายจ่ายประจำ และหากมีเหตุฉุกเฉินด้านสุขภาพหรือการตกงานแบบไม่คาดคิด ย่อมเสี่ยงทำให้ “เครดิตเสีย” ได้ง่าย
ข้อมูลจาก บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (NCB) และการวิเคราะห์ของ ttb analytics ณ มิถุนายน 2567 ยังสะท้อนภาพใหญ่ของประเทศว่า คนไทย “เกือบ 40%” มีหนี้ในระบบ และ “หนี้เฉลี่ยต่อหัว” สูงกว่า 500,000 บาท เมื่อพิจารณาร่วมกับตัวเลข 49% ที่ชำระขั้นต่ำ/ผิดนัดของกลุ่มมนุษย์เงินเดือน สัญญาณนี้จึงไม่ใช่เพียงปัญหาเฉพาะราย แต่เป็น “ความเสี่ยงเชิงระบบ” ที่ควรเร่งจัดการ
เงินออม–ภูมิคุ้มกันช่องโหว่ที่เติมเต็มไม่ทัน
แม้คำว่า “วินัยการเงิน” จะถูกพูดถึงตลอด แต่ข้อมูลสะท้อนว่า “ช่องโหว่ภาคครัวเรือน” ยังมีอยู่มาก
ความเสี่ยงสามชั้นนี้ทำให้หลายครัวเรือน “ล้มทั้งยืน” เมื่อเจอเหตุไม่คาดฝัน ขณะเดียวกันยังลดทอนความสามารถในการวางแผนระยะยาวทั้งด้านการศึกษา–ที่อยู่อาศัย–และการเกษียณ
มุมผู้สูงอายุเมื่อ “วัยเกษียณ” ไม่ใช่บทสรุปการทำงาน
สังคมไทยกำลังก้าวสู่ “สังคมสูงวัยสมบูรณ์” อย่างเต็มรูปแบบ แต่ภูมิคุ้มกันทางการเงินของผู้สูงอายุจำนวนมากกลับไม่พร้อม ข้อมูลอ้างอิงที่ถูกหยิบยกในงานบรรยายระบุว่า
ปัญหานี้เชื่อมโยงกับโครงสร้างแรงงานและคุณภาพการจ้างงานในอดีต รวมถึงระบบสวัสดิการเกษียณที่ยังพึ่งพาตนเองสูง หากไม่เร่งปิดช่องว่างตั้งแต่ช่วงวัยทำงาน ภาพ “ทำงานจนแก่–ใช้หนี้จนเกษียณ–ไร้เงินออม” จะยังวนซ้ำ
เสียงจากธุรกิจธนาคารโซลูชันต้อง “ครบวงจรและใช้งานจริง”
นางณัฐวรรณ อภิรัตนพิมลชัย ประธานกลุ่มกลยุทธ์ลูกค้าบุคคล ทีทีบี ระบุว่า สถาบันการเงินมีบทบาทสำคัญในการช่วย “ผ่อนแรง” ให้คนทำงานผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่แก้โจทย์จริง เช่น
เป้าหมายไม่ใช่เพียงขายผลิตภัณฑ์ แต่คือ “สร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน” ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือของทั้งธนาคาร นายจ้าง ภาครัฐ และตัวบุคคล
หนึ่งวันของคนเงินเดือนที่ “ทำทุกอย่างถูกต้อง” แล้วทำไมยังไม่พอ
หลายคนตั้งคำถามว่า “เราวางแผนแล้ว ทำไมยังตึงมือ” คำตอบส่วนหนึ่งอยู่ที่ “แรงเสียดทาน” เล็กๆ ที่สะสมในระบบการใช้จ่าย เช่น ค่าเดินทางที่ปรับขึ้นตามพลังงาน ค่าอาหารกลางวันที่เพิ่มทีละน้อย ค่าเช่าบ้านที่ขยับทุกปี รวมถึงค่าเลี้ยงดูผู้สูงอายุในครัวเรือนที่สูงขึ้นตามวัย เมื่อรายได้โตช้ากว่าค่าครองชีพเพียงเล็กน้อยทุกเดือน ผลรวมปลายปีจึง “ติดลบเล็กๆ” ต่อเนื่อง และนั่นคือเชื้อเพลิงให้หนี้บริโภคพอกตัว
สิ่งที่รายงานของทีทีบีสะท้อนจึงไม่ใช่เพียง “จิตวิทยาการเงินส่วนบุคคล” แต่เป็นปัญหาโครงสร้างที่ต้องแก้ร่วมกัน ตั้งแต่การเข้าถึงความรู้ทางการเงินที่ใช้งานได้จริง ไปจนถึงสวัสดิการนายจ้างที่ควบคู่กับสุขภาพกาย–ใจ และนโยบายรัฐที่เอื้อต่อค่าครองชีพที่สมเหตุสมผล
ประเด็นรองที่หลายคนมองข้ามการคุ้มครองก่อน “เรื่องใหญ่” มาเยือน
เมื่อ 80% ของมนุษย์เงินเดือนไม่มีความคุ้มครองเพียงพอ คำถามคือ “เราจะรับความเสี่ยงใหญ่ด้วยเงินสดได้จริงหรือ” คำตอบแทบทุกครัวเรือนคือ “ไม่” เบี้ยประกันพื้นฐานที่เหมาะสมกับช่วงวัย หรือสวัสดิการกลุ่มผ่านนายจ้าง อาจเป็นคำตอบที่คุ้มกว่าการใช้เงินออมก้อนเล็กไปแลกกับค่ารักษาพยาบาลหลักแสน–หลักล้าน ซึ่งกระทบฐานะทั้งครอบครัวในพริบตา
เชื่อมโยงนโยบายสาธารณะแรงงาน–สวัสดิการ–ผลิตภาพ
ในภาพกว้าง มนุษย์เงินเดือนคือกลุ่มที่เชื่อมภาษี การบริโภค และนวัตกรรมเข้าด้วยกัน หากฐานะการเงินส่วนบุคคลเปราะบาง ผลสะท้อนจะกระทบ “ผลิตภาพแรงงาน” และความสามารถในการออม–ลงทุนระดับประเทศ นักเศรษฐศาสตร์จึงเสนอให้เร่งพัฒนา 3 มิติร่วมกัน
ทั้งสามมิตินี้จะช่วยให้เงินออมและภูมิคุ้มกันเติบโต “ก่อน” วิกฤตรอบใหม่
เช็กลิสต์ปฏิบัติได้ทันทีสำหรับมนุษย์เงินเดือน
เพื่อเปลี่ยนข้อมูลเป็นการกระทำ นี่คือเช็กลิสต์สั้นๆ ที่ยึดตามหลักการที่รายงานแนะนำ
จาก “ข้อมูล” สู่ “ความหวังที่ลงมือทำได้”
รายงานของทีทีบีไม่ได้ตั้งใจชี้ให้เห็นเพียง “ปัญหา” แต่พยายามวางกรอบคิดใหม่ว่า การมีวินัยการเงินไม่ใช่แค่เรื่องส่วนบุคคล หากเป็น “โครงสร้างสนับสนุน” ที่ต้องทำให้คนส่วนใหญ่ทำได้จริงด้วยต้นทุนทางเวลาที่ต่ำ ข้อมูลที่ชัดเจน และเครื่องมือที่เข้าใจง่าย หากธนาคาร–นายจ้าง–รัฐ และตัวเราเอง เดินไปในทิศทางเดียวกัน ฐานะการเงินของมนุษย์เงินเดือนจะค่อยๆ แข็งแรงขึ้น และเมื่อฐานะของ “เดอะแบกตัวจริง” ดีขึ้น ฐานเศรษฐกิจไทยก็จะมั่นคงขึ้นตามลำดับ
สุดท้ายนี้ ตัวเลข 82% ที่ “มีหนี้” หรือ 77% ที่ “ออมไม่ถึง 10% ของรายได้” ไม่ได้เป็นตราบาปของใคร แต่มันคือไฟเตือนบนหน้าปัดที่บอกว่า “ถึงเวลาเข้าอู่ซ่อม” และเริ่มสร้างระบบกันสะเทือนให้ชีวิตทางการเงิน ตั้งแต่ตัดดอกเบี้ยแพง ลดการจ่ายขั้นต่ำ ไปจนถึงออมและทำประกันที่พอดี นี่คือเส้นทางที่ไม่ง่าย แต่เริ่มได้ทันทีตั้งแต่ “เงินเดือนรอบหน้า”
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.