
ฮานอย เวียดนาม, 7 กรกฎาคม 2568 –Reporter Journey รายงานว่าการผงาดขึ้นของเศรษฐกิจเวียดนามในปี 2025 กลายเป็นประเด็นจับตาของทั้งภูมิภาคอาเซียนและเศรษฐกิจโลก หลังสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (NSO) เผยตัวเลขไตรมาส 2 ปี 2025 ว่า GDP เวียดนามขยายตัวสูงถึง 7.96% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ขณะที่ GDP ไตรมาสแรกอยู่ที่ 6.93% ถือเป็นอัตราเติบโตที่สูงสุดในกลุ่มประเทศอาเซียน สะท้อนถึงพลังการขับเคลื่อนของภาคอุตสาหกรรมและส่งออกซึ่งเป็น “เครื่องยนต์หลัก” ของเวียดนาม
ขับเคลื่อนด้วยการส่งออก เบื้องหลังสถิติที่น่าทึ่ง
รายงานล่าสุดระบุว่า มูลค่าการส่งออกของเวียดนามในช่วงไตรมาส 2 ปี 2025 พุ่งขึ้น 18.0% อยู่ที่ 117,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่การนำเข้าขยายตัว 18.8% อยู่ที่ 112,000 ล้านดอลลาร์ ทำให้เวียดนามยังคงรักษาสถานะ “เกินดุลการค้า” ได้ถึง 4,410 ล้านดอลลาร์ สร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพการแข่งขันของสินค้าเวียดนามในตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง
ที่สำคัญ ภาคการผลิต ขยายตัวถึง 10.3% ในไตรมาสเดียวกัน สวนกระแสความท้าทายทางเศรษฐกิจโลกในยุคหลังโควิด-19 และวิกฤตภูมิรัฐศาสตร์
พระเอกของเกม อุตสาหกรรมไฮเทค-เซมิคอนดักเตอร์และบทบาทต่างชาติ
จุดเปลี่ยนสำคัญของเวียดนามในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา คือการยกระดับภาคการผลิตให้เข้าสู่อุตสาหกรรมไฮเทคและเซมิคอนดักเตอร์ บริษัทข้ามชาติรายใหญ่ เช่น Samsung ได้ตั้งโรงงานขนาดใหญ่ในเวียดนามจนปัจจุบันมือถือ Samsung กว่า 60% ที่จำหน่ายทั่วโลก ผลิตจากเวียดนาม ขณะที่ Apple ก็ขยับฐานการผลิต iPhone และ iPad จากจีนมายังเวียดนามอย่างต่อเนื่อง
บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์ เช่น Foxconn, Nvidia, Intel ต่างเข้ามาตั้งโรงงานเพื่อผลิตไมโครชิปและชิ้นส่วนส่งออกไปตลาดโลก ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกปี 2024 ของเวียดนามพุ่งแตะ 403,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เติบโตสูงถึง 13.8% แซงหน้าประเทศไทยซึ่งมีมูลค่าการส่งออกในปีเดียวกันที่ 305,529 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวเพียง 5.4% ชี้ให้เห็นถึงโครงสร้างเศรษฐกิจที่เอื้อต่ออุตสาหกรรมมูลค่าสูงของเวียดนาม
จุดเปลี่ยนสำคัญ สหรัฐฯ ลดภาษีนำเข้า หนุนการค้าเวียดนามสู่โลก
การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเวียดนามไม่ได้เกิดขึ้นจากการบริหารจัดการภายในประเทศเพียงอย่างเดียว แต่ยังได้รับแรงหนุนจากปัจจัยภายนอกที่สำคัญ เช่น ข้อตกลงกับสหรัฐอเมริกาในการ ลดภาษีนำเข้าสินค้าเวียดนามจาก 46% เหลือเพียง 20% ขณะที่สินค้าจากประเทศอื่นยังเสียภาษีถึง 40% นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังอนุญาตให้ส่งสินค้าเข้าสู่ตลาดเวียดนามโดยไม่เสียภาษีอีกด้วย
นักวิเคราะห์เศรษฐกิจประเมินว่าข้อตกลงนี้เปรียบเสมือน “ใบเบิกทาง” ให้ภาคธุรกิจเวียดนามขยายตลาดไปยังสหรัฐฯ ได้มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และไฮเทค ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของเวียดนามอยู่แล้ว สะท้อนจากสถิติปี 2024 ที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้ากับเวียดนามถึง 123,000 ล้านดอลลาร์ สูงสุดในประวัติการณ์
รายได้ต่อหัวพุ่งแรง เวียดนามแคบช่องว่างกับไทย-อินโดนีเซีย
ผลพวงจากการพัฒนาโครงสร้างเศรษฐกิจเชิงรุก ทำให้ รายได้ต่อหัว (GNI per capita) ของชาวเวียดนามในปี 2025 ขยับขึ้นเป็น 4,806 ดอลลาร์/ปี (จาก 4,540 ดอลลาร์ในปี 2024) ใกล้เคียงกับอินโดนีเซียซึ่งอยู่ที่ 5,027 ดอลลาร์/ปี และเป็นอัตราการเติบโตของรายได้ประชาชาติที่เร็วที่สุดในอาเซียน
เทียบกับไทย แม้ว่ารายได้ต่อหัวของไทยในปี 2025 จะคาดว่าอยู่ที่ 7,766.7 ดอลลาร์/ปี แต่แนวโน้มการแคบช่องว่างชัดเจน เมื่อรายได้ต่อหัวเวียดนามคิดเป็น 62% ของไทย และยังมีแนวโน้มเติบโตเร็วกว่าหลายประเทศในภูมิภาคนี้
การวิเคราะห์โอกาสและความท้าทายข้างหน้า
ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญ
ความท้าทายที่ต้องระวัง
เวียดนามกำลังกลายเป็น “ดาวรุ่ง” แห่งเศรษฐกิจเอเชีย
กรณีศึกษาของเวียดนามในไตรมาส 2 ปี 2025 สะท้อน “ยุทธศาสตร์เชิงรุก” ของรัฐบาลในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้รองรับโลกใหม่ได้อย่างคล่องตัว ไม่เพียงแต่ยึดครองตลาดอิเล็กทรอนิกส์และไฮเทคระดับโลก แต่ยังขยับรายได้ประชาชาติต่อหัวแซงหน้าประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาค เป็นบทเรียนสำคัญว่าประเทศขนาดกลางก็สามารถ “ผงาดขึ้น” ได้ถ้าปรับตัวทันต่อเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนเร็ว
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.