เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิจัยแผ่นดินไหวแห่งชาติร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ จัดงานรำลึกครบรอบ 20 ปีเหตุการณ์สึนามิในมหาสมุทรอินเดีย ณ จังหวัดพังงา โดยมีการประชุมสัมมนางานวิจัยแผ่นดินไหวของประเทศไทย ครั้งที่ 2 เพื่อหาแนวทางเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติและสร้างความปลอดภัยให้แก่ชุมชนในพื้นที่เสี่ยง
ยกระดับการเตือนภัยและความพร้อมของชุมชน
งานดังกล่าวมุ่งเน้นการถอดบทเรียนจากเหตุการณ์สึนามิในปี 2547 เพื่อนำมาพัฒนาระบบเตือนภัยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมีการบรรยายและกิจกรรมเชิงปฏิบัติ เช่น การจำลองสถานการณ์ การซักซ้อมอพยพ และการใช้เทคโนโลยีจำลองคลื่นสึนามิ พร้อมสำรวจสถานที่สำคัญที่ได้รับผลกระทบในอดีต นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสร้างความรู้และความตระหนักแก่เยาวชนในพื้นที่ผ่านการใช้อุปกรณ์และเกมการเรียนรู้
ศ.ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยแผ่นดินไหวแห่งชาติ ระบุว่าภัยสึนามิในอนาคตยังมีโอกาสเกิดขึ้น โดยเฉพาะในบริเวณรอยต่อแผ่นดินไหวอาระกันและหมู่เกาะอันดามัน ซึ่งยังไม่คลายพลังงาน การเตรียมพร้อมจึงเป็นสิ่งสำคัญ ระบบเตือนภัยต้องมีความรวดเร็ว สามารถรับรู้ได้ภายใน 20-30 นาที และดำเนินการอพยพได้อย่างมีประสิทธิภาพในเวลาที่จำกัด นอกจากนี้ยังเสนอแนวคิดการสร้างที่หลบภัยแนวดิ่งในพื้นที่จำกัด เช่น เขาหลักและเกาะพีพี เพื่อรองรับผู้ประสบภัยจำนวนมาก
สร้างความร่วมมือระหว่างประเทศและภาคส่วนต่างๆ
นอกจากความพยายามในประเทศ ไทยยังได้สร้างความร่วมมือกับญี่ปุ่นในการพัฒนาความปลอดภัยและการรับมือสึนามิ โดยนำมาตรการที่ได้ผลของญี่ปุ่นมาปรับใช้ เช่น การออกแบบผังเมือง การพัฒนาบุคลากรเฉพาะทาง และการใช้เทคโนโลยีเพื่อจำลองสถานการณ์ภัยพิบัติ
ในด้านการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยแผ่นดินไหวแห่งชาติเรียกร้องความร่วมมือจากโรงแรมและสถานประกอบการในพื้นที่เสี่ยง เพื่อจัดสรรพื้นที่เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว และติดตั้งป้ายนำทางให้ครอบคลุมทุกจุด
บทบาทของรัฐและการตระหนักรู้
น.ส.รัชนีกร ทองทิพย์ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่าประเทศไทยยังเน้นการเยียวยาผลกระทบเป็นหลัก แต่ขาดการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ การบูรณาการระบบเตือนภัย การจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนเรื่องภัยพิบัติในโรงเรียน และการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในระดับนโยบายเป็นสิ่งที่รัฐต้องให้ความสำคัญมากขึ้น
“เราต้องออกแบบเมืองให้พร้อมรับมือภัยพิบัติ โดยนำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาปรับใช้ ซึ่งจะช่วยลดงบประมาณในระยะยาว” น.ส.รัชนีกร กล่าว พร้อมแนะนำให้รัฐสนับสนุนการศึกษาพื้นที่เสี่ยงและพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านภัยพิบัติ
ก้าวต่อไปของการเตรียมพร้อม
ศูนย์วิจัยแผ่นดินไหวยังได้เสนอแนวคิดปรับปรุงการแจ้งเตือนผ่านโทรศัพท์มือถือแทนวิทยุและโทรทัศน์ เพื่อลดช่องว่างในการเข้าถึงข้อมูลของประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล ทั้งนี้ยังเน้นย้ำความสำคัญของการซักซ้อมอพยพและการบำรุงรักษาอุปกรณ์เตือนภัยให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา
งานรำลึก 20 ปีสึนามิครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เน้นย้ำความสำคัญของการเตรียมพร้อม แต่ยังเป็นโอกาสในการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศและภาคส่วนต่างๆ เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในอนาคต
“อย่าประมาทกับภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น เราทุกคนต้องเตรียมพร้อมเสมอเพื่อความปลอดภัยของชุมชนและประเทศชาติ” ศ.ดร.เป็นหนึ่ง กล่าวทิ้งท้าย
ข่าวนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชน และกระตุ้นให้ภาครัฐดำเนินการเชิงรุกในการรับมือภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ศูนย์วิจัยแผ่นดินไหวแห่งชาติร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.