Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

รพ.เชียงรายฯจัดหน่วยตรวจสุขภาพทีมอาสาดับไฟป่า มูลนิธิกระจกเงา

 
เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 67 เวลา 10.00 น. ณ อาคารโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ (โฮงยาไทย2) ศาลากลางจังหวัดเชียงราย (หลังเก่า) นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ ปลัดจังหวัดเชียงราย นายครรชิต ชมภูแดง หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงรายนางสาวนันทวรรณ กันคำ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจทีมอาสาดับไฟป่า มูลนิธิกระจกเงา โดยมีแพทย์หญิงอัจฉรา ละอองนวลพานิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ นำทีมคณะผู้บริหาร คุณหมอ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ เข้าปฏิบัติหน้าที่ และให้การต้อนรับ

 

โดยในวันนี้ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ได้จัดหน่วยให้บริการตรวจสุขภาพกับทีมอาสาดับไฟป่า มูลนิธิกระจกเงา จำนวน 51 คน ซึ่งจะได้ไปช่วยปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าในพื้นที่สูงชัน เข้าถึงลำบาก ซึ่งจำเป็นมีการตรวจสุขภาพ ทั้งการวัดความดัน การตรวจสมรรถภาพปอด (เป่าปอด) และตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เพื่อเป็นการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงาน ตามนโยบายผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ทั้งนี้ ได้มอบรองเท้าเซฟตี้สำหรับดับไฟป่าและแกลลอนเปล่าสำหรับใช้บรรจุน้ำดื่ม สำหรับทีมที่ขึ้นไปช่วยดับไฟป่า เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานดับไฟป่าของมูลนิธิกระจกเงา

 

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ต้องขอบคุณชาวเชียงรายทุกคนที่ร่วมมือกันงดเผาในพื้นที่โล่งทุกชนิดจนทำให้จังหวัดเชียงรายตั้งแต่ในช่วงที่มีประกาศห้ามเผา (ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ จนถึงวัน) พบจุดความร้อนน้อยที่สุดในจังหวัดภาคเหนือตอนบน และขอขอบคุณทีมอาสาดับไฟป่าทุกทีมที่เข้าพื้นที่เพื่อเสริมศักยภาพภารกิจดับไฟป่าทุกคน พร้อมย้ำให้ผู้ปฏิบัติงานทุกคนต้องใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติงาน ชีวิตและความปลอดภัยสุขภาพร่างกายของผู้ปฏิบัติงานต้องมาก่อน ต้องมีการตรวจสุขภาพร่างกายทุกครั้งทั้งก่อนและหลังปฏิบัติงาน เพื่อเป็นการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานหากร่างกายไม่พร้อมก็ต้องงดลงพื้นที่ดับไฟป่าเพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานเอง 

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงราย นำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรผลิตเตาเผาถ่านซังข้าวโพดและเตาชีวมวลแกลบ

 

เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 67 ที่สำนักงานเทศบาลตำบลป่าอ้อดอนชัย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดการอบรมเพื่อส่งเสริมเทคโนโลยีพลังงานทดแทน ภายใต้โครงการเชียงรายเมืองสีเขียวสร้างสรรค์ โดยมีนายปรศักดิ์ งามสมภาค พลังงานจังหวัดเชียงราย กล่าวรายงาน และนายสุรฬพลฎ์ ดุรงคชยานุรักษ์ นายกเทศมนตรีป่าอ้อดอนชัย กล่าวต้อนรับ นางสาวนันทวรรณ กันคำ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ พนักงานและเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมืองเชียงราย ร่วมพิธี

 

จังหวัดเชียงราย มีพื้นที่การเกษตรเป็นจำนวนมากและได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันทุกปี สำนักงานพลังงานจังหวัดเชียงรายเล็งเห็นถึงปัญหา จึงจัดให้ความรู้ให้กับเกษตรกรด้วยการใช้เทคโนโลยี มาใช้ในการจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรอย่างถูกวิธี โดยส่งเสริมเทคโนโลยีพลังงานทดแทน เตาเผาถ่านซังข้าวโพด ขนาด 200 ลิตร, เตาเผาถ่านไบโอชาร์ ชนิดเผาเร็ว ขนาด 200 ลิตร และเตาชีวมวลแกลบ เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า เป็นไปตามเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรมและเสริมสร้างองค์ความรู้ในการบริหารจัดการวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ที่นำไปสู่การลดปัญหาด้านหมอกควันให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ระดับตำบล หมู่บ้าน ที่เป็นหน่วยดำเนินการด่านแรกในการช่วยกันป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าเพื่อให้สามารถลดความรุนแรงของการเกิดหมอกควันไฟป่าให้ได้ผลตามเป้าหมายได้อย่างยั่งยืน

 

อีกทั้งเพื่อเป็นการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เผยแพร่องค์ความรู้การป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและการเผาในที่โล่ง  และเพื่อแก้ไขปัญหาคุณภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดเชียงรายให้คุณภาพอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ส่งผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด  และส่งเสริมให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการป้องกันแก้ไขปัญหามลพิษจากหมอกควันไฟป่าสำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ประกอบด้วย ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการเกษตรชุมชน สหกรณ์การเกษตร กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ ศูนย์เรียนรู้ตำบล อปท. และกลุ่มเกษตรกรทั่วไปในพื้นที่

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
All

Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 มียอดผู้เข้าชมงานพุ่งกว่า 1.6 ล้านคน

 
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ได้ประชุมหัวหน้าส่วนราชการและองค์การมหาชนในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ครั้งที่ ๒/๒๕๖๗ โดยที่ประชุมได้รับรายงานจากสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) เกี่ยวกับผลการจัดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2566 – 30 เมษายน 2567 ภายใต้แนวคิด “เปิดโลก” (The open World) ได้แรงบันดาลใจจากพระพุทธรูปปางเปิดโลกที่โบราณสถาน วัดป่าสัก อำเภอเชียงแสน โดยคัดเลือกผลงานจากศิลปิน 60 คน จาก 23 ประเทศทั้งไทยและประเทศต่างๆ ทั่วโลกร่วมจัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัย ซึ่งช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2567 มีผู้เข้าชมงานและร่วมกิจกรรมภายในงานนี้ทั้งหมดกว่า 1,600,000 คน
 
 
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า การจัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัยและกิจกรรมในงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 แบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 
 
1) นิทรรศการหลัก แสดงผลงานศิลปะการจัดวางเฉพาะพื้นที่ (Site Specific Installation) จัดแสดงในเขตอำเภอเมืองเชียงราย อำเภอแม่ลาวและอำเภอเชียงแสน 
2) ศาลา (Pavilion) แสดงผลงานนิทรรศการกลุ่มของศิลปิน พิพิธภัณฑ์ และองค์กรต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ 10 แห่งในอำเภอเมืองเชียงรายและอำเภอใกล้เคียง 
และ3) Collateral Events เป็นกิจกรรมพิเศษที่จัดขึ้นในช่วงงาน เช่น ดนตรีชาติพันธุ์ งานฉายภาพยนตร์ การแสดงอื่นๆและการเยี่ยมชมบ้านหรือสตูดิโอของศิลปินในจังหวัดเชียงรายตามอำเภอต่างๆ 
 
 
ซึ่ง วธ.โดยสศร.จะร่วมกับหน่วยงานรัฐ เอกชนและเครือข่ายศิลปินและศิลปินชาวไทยและชาวต่างชาติดำเนินการจัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัยและกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 เช่น นิทรรศการ My Bulgarian Neighbor “Melting” Seventh Layer กิจกรรม OPEN WORLD CINEMA – Hours of ours กิจกรรมดนตรีชาติพันธุ์ “กวาคีลา : เป่า ร้อง กลอง รำ เปิดโลกวิถีวัฒนธรรมดนตรีชาติพันธุ์เมืองเชียงราย และนิทรรศการทัวร์เส้นทางท่องเที่ยวชุมชนเฮือนโบราณ เจียงฮาย เป็นต้น
 
 
น่ายินดีที่มีชาวไทยและชาวต่างชาติ คณะบุคคลต่างๆมาเข้าชมและร่วมกิจกรรมในงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 เป็นจำนวนมาก ช่วงเวลาของการจัดงานที่เหลือกว่า 1 เดือน ขอเชิญชวนคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวชมงานเพื่อศึกษาเรียนรู้งานศิลปะร่วมสมัย ซึ่งเป็นหนึ่งใน Soft Power 11 อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่รัฐบาลมุ่งส่งเสริมเพื่อสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนและชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ ตลอดจนเสริมสร้างภาพลักษณ์ และยกระดับบทบาทด้านศิลปวัฒนธรรมของไทยในเวทีโลกและพัฒนางานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยไทยสู่ความเป็นสากล” นายเสริมศักดิ์ กล่าว
 
 
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อไปว่า นอกจากงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 แล้ว ช่วงเดือนมีนาคม 2567 สศร.จัดกิจกรรมแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัยอื่นๆ อาทิ นิทรรศการศิลปะ “ลายมือ” ของนายแสงมณี แสงบุญ ศิลปินและดีไซน์เนอร์มืออาชีพผู้มีผลงานสร้างสรรค์ห้องเสื้อ “แสงบุญ” เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการของแฟชั่น โดยนำผลงานศิลปะที่แสดงเรื่องราวซึ่งมีที่มาจากจิตภายในสู่ภายนอก ต่อเส้นสายจากใจสู่มือ ถ่ายทอดผ่านลายมือ ลายเส้น ทั้งขาวดำและสีสัน ออกมาเป็นผลงานศิลปะอันมีเสน่ห์ 
 
 
โดยจัดแสดงตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 ณ เฮินศิลป์ใจ๋ยอง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ และนิทรรศการ “1+2 CNX” นำเสนอผลงานศิลปะของศิลปินชั้นครู ผู้มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ได้แก่ ศาสตราจารย์เกียรติคุณพงศ์เดช ไชยคุตร นายพีระพงษ์ ดวงแก้วและนางสาวราษี ศรบรรจง โดยเป็นการส่องสะท้อนนิเวศทางศิลปะและวัฒนธรรมผ่านทักษะฝีมือของศิลปินชั้นครูทั้ง 3 ท่าน เปิดให้เข้าชมตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 30 มีนาคม 2567 ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งกิจกรรมเสพศิลป์…ฟินอาร์ต เช่น กิจกรรมฟื้นชีวิตเรือนพื้นถิ่นโบราณเชื่อมประสานเศรษฐกิจชุมชน จัดขึ้นตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 28 เมษายน 2567 ณ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง กิจกรรมดนตรีในสวนป่า ครั้งที่ 3 จัดขึ้นวันที่ 23 มีนาคม 2567 ณ อุ้มฮุ่มโฮมสเตย์และสวนป่าเกษตรอินทรีย์ อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงวัฒนธรรม

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

ทางหลวงแจง แท่งปูนห้อยบนถนน เทิง – เชียงคำ จากภาพที่ปรากฏในข่าว

 
เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2567 นายยงยุทธ์ เพ็งเมือง ผู้อำนวยการสำนักก่อสร้างทาง กรมทางหลวงชนบท ชี้แจงว่า โครงการก่อสร้างถนนสายแยก ทล.1020 – บ้านกิ่วแก้ว อำเภอเทิง, จุน จังหวัดเชียงราย, พะเยา อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างสะพาน Box Segment เพื่อข้ามถนน ทล.1021 จากภาพที่ปรากฏในข่าวเป็นการยก Box Segment จากกรณีสำนักข่าว นครเชียงรายนิวส์ได้มีการเผยแพร่ข่าว แท่งปูนห้อยต่องแต่งกลางถนน บริเวณถนนเทิง – เชียงคำ จนทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะซ้ำรอยเหตุการณ์สะพานถล่มที่ถนนพระราม 2 นั้น
 
 

โดยออกหนังสือชี้แจงจากสำนักก่อสร้างทาง ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในข่าว ขอเรียนชี้แจงว่า โครงการก่อสร้างถนนสายแยก ทล.1020 – บ้านกิ่วแก้ว อำเภอเทิง, จุน จังหวัดเชียงราย, พะเยา อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างสะพาน Box Segment เพื่อข้ามถนน ทล.1021 จากภาพที่ปรากฏในข่าวเป็นการยก Box Segment ซึ่งสำนักก่อสร้างทางได้ทำการยกและจัดเรียงด้านซ้ายทางและขวาทาง เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2567 เวลา 13.00 น. จากนั้นได้ดำเนินการดึงลวดอัดแรง เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2567 เวลา 18.00 น. ระหว่างดำเนินการได้ประชาสัมพันธ์และจัดเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกและปลอดภัยให้กับประชาชน

 

โดยเริ่มดำเนินการด้านขวาทางของถนน ทล.1021 และได้ปิดการจราจรให้ใช้ทางเบี่ยงในระหว่างที่ยกและจัดเรียง Box Segment จนดึงลวดอัดแรงแล้วเสร็จ สำหรับด้านซ้ายทางของ ทล.1021 ไม่สามารถก่อสร้างทางเบี่ยงได้ เนื่องจากพื้นที่ไม่เพียงพอ จึงปิดให้ใช้ ทล.1021 ได้ 1 ช่องจราจร ซึ่งให้เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในบริเวณดังกล่าว พร้อมทั้งได้ประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ให้ปิดกั้นรถไม่ให้ผ่านในช่วงยกและจัดเรียง รวมถึงได้เปิดการจราจรให้ผู้ใช้เส้นทางสัญจรไปมาเป็นช่วง โดยโครงการได้มีมาตรการตรวจสอบความปลอดภัย ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยทางวิศวกรรม ปัจจุบันได้ดำเนินการแล้วเสร็จ และได้เปิดการจราจรให้ประชาชนใช้สัญจรได้ตามปกติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม สำนักก่อสร้างทาง มีความห่วงใยในความปลอดภัยของประชาชน และขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้

 

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาให้ความอนุเคราะห์เผยแผร่ข้อเท็จจริงดังกล่าวให้ประชาชนได้รับทราบโดยทั่วกันและขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้“

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมทางหลวงชนบท

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

รมว.ศึกษาธิการ ลงพื้นเชียงราย การดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล

 

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2567 เวลา 10.00 น. พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตรวจเยี่ยมการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนบ้านห้วยไร่สามัคคี อ.แม่ฟ้าหลวง สังกัด สพป.เชียงราย เขต 3 โดยมี นายศุภโชค ปิยะสันติ์ ผอ.โรงเรียน คณะครูและนักเรียนให้การต้อนรับและรายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาตามนโยบายของรัฐบาล จุดที่ 1 ศูนย์การเรียนเกษตร จุดที่ 2 ห้องสมุด & ร้านกาแฟ (นักเรียนดำเนินการเอง) จุดที่ 3 การเรียนแบบจิตศึกษา สร้างสมาธิ (แก้ปัญหาการอ่าน การเขียน ภาษาไทย) จุดที่ 4 Art for Living จุดที่ 5 ห้องเรียนคหกรรมศาสตร์ โดยแต่ละจุดมีนักเรียนในระดับชั้นต่างๆ นำเสนอการเรียนการสอนที่เน้นให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง ตามนโยบายเรียนดี มีความสุข ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โอกาสนี้ นายวัลลภ ไม้จำปา รองศึกษาธิการภาค 17 พร้อมด้วย นายเกรียงศักดิ์ ยอดสาร ผอ.สพม.เชียงราย นายวิเศษ เชยกระรินทร์ ผอ.สพป.เชียงราย เขต 3 นายมรกต อนุเคราะห์ ผอ.สพป.เชียงราย เขต 1 นางกัญจนา สัตตรัตนำพร ผอ.สพป.เชียงราย เขต 4 และผู้เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับและรายงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง


โรงเรียนบ้านห้วยไร่สามัคคี เปิดทำการสอนเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2507 โดยใช้ชื่อว่า โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนที่ 61 ต่อมาได้โอนมาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ในปี พ.ศ. 2520 โรงเรียนได้ขยายโอกาสทางการศึกษาและได้เริ่มจัดการเรียนการสอนในระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย ตามแผนพัฒนาการศึกษาของโครงการพัฒนาดอยตุง(พื้นที่ทรงงานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ) ตั้งแต่ปีการศึกษา 2547 โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างโอกาสให้แก่นักเรียนชาวเขา ในพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุงฯ ได้เรียนจนจบการศึกษาชั้นพื้นฐาน และนำความรู้กลับมาพัฒนาท้องถิ่นของตน
 

ในระยะเริ่มต้นได้ดำเนินการโดยเปิดเป็นห้องเรียนในสาขาของโรงเรียนแม่จันวิทยาคม และใช้ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมป็นสถานที่ในการจัดการเรียนการสอน ต่อมาจึงได้รับอนุมัติให้เปิดขยายชั้นเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และจัดการเรียนการสอนด้วยตนเองตั้งแต่ปีการศึกษา 2549 เป็นต้นมา ปีการศึกษา 2550 ให้ย้ายสถานที่มายังโรงเรียนแห่งใหม่ซึ่งได้รับงบประมาณในการก่อสร้าง จำนวน 13 ล้านเศษ บนพื้นที่ 7 ไร่ 11 ตารางวา ซึ่งเป็นสำนักงานชั่วคราวของแขวงการทางลำปาง โรงเรียนได้จัดการศึกษาโดยยึดพระราชปณิธานของสมเด็จย่าที่ว่า “ช่วยเขา ให้เขาช่วยตัวเขา เอง” โดยมี นายศุภโชค ปิยะสันติ์ เป็นผู้อำนวยการ ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมาถึงปัจจุบัน มีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 34 คน นักเรียนระดับชั้นอนุบาล 1- มัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 426 คน
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

อบจ.สัญจร ลงพื้นที่ อ.เชียงแสนเยี่ยม รพ.สต.ในสังกัด รับข้อเสนอประชาชน

 
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2567 เวลา 10.00 น. นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย พร้อมด้วย นายรามิล พัฒนมงคลเชฐ ปลัด อบจ.เชียงราย สิบเอกวิมล รู้ทำนอง ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และงบประมาณ นางนภาภัณฑ์ ต่วนชะเอม เลขานุการ อบจ.เชียงราย นายสุวิน เครื่องสีมา สมาชิกสภา อบจ.เชียงราย อ.เชียงแสน เขต 1 นายอนุรักษ์ ทองเสรี สมาชิกสภา อบจ.เชียงราย อ.เชียงแสน เขต 2 ลงพื้นที่ อ.เชียงแสน รับฟังปัญหาความต้องการและความเดือดร้อน รวมทั้งข้อเสนอการดำเนินการ ต่าง ๆ ของ อบจ.เชียงราย ในพื้นที่ อ.เชียงแสน ในโครงการมหกรรม อบจ.สัญจร ประจำปี 2567 ณ หอประชุมโรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม โดยมีนายรังสรรค์ ไชยพุฒ นายก ทต.โยนก นางเกศสุดา สังขกร นายก ทต.เวียงเชียงแสน นายสุเทพ ล้อสีทอง ประธานสภาวัฒนธรรม อ.เชียงแสน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. และประชาชนในพื้นที่ ร่วมในการเสนอความต้องการและเสนอปัญหาความเดือดร้อนในพื้นที่ครั้งนี้ด้วย
 
 
พร้อมกันนี้ได้ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่ อ.เชียงแสน โดยได้ประสานเจ้าหน้าที่กองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพ จ.เชียงราย และรพ.สต. ในการช่วยเหลือการเข้าถึงสิทธิการดูแลด้านต่าง ๆ จากกองทุนฟื้นฟูฯ ต่อไป นอกจากนี้ยังได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม การให้บริการของ รพ.สต.บ้านเวียงแก้ว และสอบถามปัญหาต่าง ๆ เพื่อเร่งดำเนินการในการแก้ไข พร้อมผลักดันการแจ้งปัญหาสุขภาพด้วยแอปพลิเคชัน LINE OA ของ รพ.สต.และของ อบจ.เชียงราย เพื่อลดปัญหาและภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของผู้รับบริการอีกด้วย
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ปลุกพลังเยาวชน “แม่จัน“ สร้างเครือข่ายเยาวชนอาสาพัฒนาเชียงราย

 
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2567 เวลา 09.00 น. นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย พบปะเยาวชนแม่จันในโครงการส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงราย กิจกรรมที่ 3 อบรมเครือข่ายเยาวชนอาสาพัฒนาเชียงราย ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลแม่จัน โดยมีนายฐิติวัชร ไลศิริพันธ์ ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม นายเสกสรรค์ จันทร์ถิระติกุล นายก ทต.แม่จัน นางสาวทิตยา ไชยรินทร์ เลขานุการนายก ทต.แม่จัน นางสุวิมล หินใหญ่ ผู้อำนวยการกองคลัง ทต.แม่จัน นางสาวธัญชนก เรืองจิตต์ ผู้อำนวยการ กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ทต.แม่จัน ร่วมให้การต้อนรับในครั้งนี้ด้วย
 
 
การอบรมเครือข่ายเยาวชนอาสาพัฒนาเชียงราย ในครั้งนี้ อบจ.เชียงราย ในฐานะที่เป็นหน่วยงานหลักที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญในการจัดบริการสาธารณะให้แก่ประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งให้เป็นไปตามนโยบายที่ 5 สภาเยาวชนร่วมกำหนดอนาคตเชียงราย รวมถึงการพัฒนาคุณภาพความเป็นอยู่ของประชากรทุกเพศทุกวัยโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำคัญของประเทศในอนาคตจำเป็นจะต้องได้รับการส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เยาวชนได้มีพื้นที่ในการแสดงความคิดเห็นแสดงออกอย่างถูกต้องเป็นประโยชน์ต่อสังคม ซึ่งเยาวชนคนรุ่นใหม่ และเครือข่ายคนรุ่นใหม่เหล่านี้ จะมีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนทิศทางการพัฒนาจังหวัดเชียงราย ให้เกิดความยั่งยืนจากรุ่นสู่รุ่น จึงได้เกิดกิจกรรมการ อบรมเพื่อคัดเลือกคณะกรรมการระดับอำเภอเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเยาวชนในการขับเคลื่อนการพัฒนาท้องถิ่นของตนเองขึ้น และจะดำเนินการให้ครบถ้วน ทั้ง 18 อำเภอ ของจังหวัดเชียงราย ต่อไป
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เทศบาลนครเชียงรายเชิดชูเกียรติอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน

 

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2567 เป็นวัน อสม. แห่งชาติ เทศบาลนครเชียงรายโดย นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย จัด “โครงการส่งเสริมสุขภาพแกนนำชุมชนและประชาชนจิตอาสา” เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ รวมถึงส่งเสริมให้ อสม. ได้รวมพลังสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่คนไทย

 

ปัจจุบันเทศบาลนครเชียงรายมีสมาชิกอาสาสมัครสาธารณสุขในเขตเทศบาล จำนวน 539 คน ใน 4 เขต 65 ชุมชนโดยมีสมาชิกอสม. แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบดูแลด้านสาธารณสุขโดยเน้นเรื่องการดูแลสุขภาพอนามัยพี่น้องประชาชนในแต่ละชุมชน ตั้งแต่แรกเกิด ถึงผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง เป็นสำคัญมาโดยตลอด พร้อมศูนย์บริการด้านสาธารณสุข 4 แห่ง ศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาล 1 น้ำลัด ศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาล 2 สันหนอง ศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาล 3 สันตาลเหลือง ศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาล 4 หัวฝาย
 
 
โดยในวันนี้ นายวันชัย จงสุทธานามณีนายกเทศมนตรีนครเชียงราย คณะผู้บริหาร ประธานสภา สมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงราย ข้าราชการและภาคีเครือข่ายมอบใบประกาศเกียรติคุณแก่สมาชิกอสม. ดีเด่นระดับอำเภอประจำปี 2566 สมาชิกอสม.ที่ปฏิบัติงานจิตอาสามากกว่า 30 ปี อสม.ครบ 30 ปี อสม.ครบ 20 ปีและอสม. ครบ 10 ปี รวม 119 คน พร้อมมอบเข็มเชิดชูเกียรติแก่สมาชิกอสม.นครเชียงราย นอกจากนี้ภาคีเครือข่ายจากโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงรายมาให้ความรู้ด้านPM 2.5 และเสริมสร้างพลัง สร้างขวัญกำลังใจ และสานสัมพันธ์แก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในครั้งนี้
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

ผู้ว่าฯ เชียงราย สั่งเตรียมเฮลิคอปเตอร์ จากเชียงใหม่เสริมภารกิจดับไฟป่า

 

เมื่อวันที่20 มีนาคม 2567 ที่ห้องศูนย์ปฏิบัติการหมอกควันไฟป่า และ PM2.5 จังหวัดเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์หมอกควันไฟป่า และฝุ่นPM2.5 โดยใช้เฮลิคอปเตอร์ KA-32 (Kamov Ka-32 ) ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย 

 

ในการดับไฟป่ากรณีพื้นที่สูงชัน หรือพื้นที่ ที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ และเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ดูแลเป็นกรณีพิเศษในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่จัน เมืองเชียงราย แม่สรวย และอำเภอเวียงป่าเป้า และเตรียมการรับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในโอกาสเสด็จมา ทรงประกอบพิธีตัดหวายลูกนิมิตอุโบสถบุญชุ่มรัตนปุรีศรีธรรมราชา ณ วัดพระธาตุดอยเวียงแก้ว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ในวันที่ 30 มี.ค. 67 โดยมีนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายครรชิต ชมภูแดง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย/ พ.อ.พักตร์พงษ์ เงสันเที๊ยะ หน.กลุ่มงานนโยบายแผนและการข่าวฯ กอ.รมน. /นายสุรศักดิ์ วณิชอนุกูล ผู้อำนวยการส่วนสิ่งแวดล้อม ทสจ.ชร. และทีมนักบินผู้เชียวชาญเข้าร่วมประชุม

 

ทั้งนี้ KA-32 สามารถทำการบินต่อเนื่องได้นาน 2 ชั่วโมง 45 นาที ความเร็วเดินทาง 222 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งสมรรถนะภาพดับไฟป่าโดยตัวเครื่องมี 2 ใบพัด “Coaxial Rotors” ใบพัด 2 ชั้นหมุนไปในทิศทางตรงข้ามกัน มีท่อดูดน้ำยาว 42 เมตร สูบน้ำ 1 นาที บรรจุได้ 3,000 ลิตร เพื่อนำน้ำไปทิ้งในพื้นที่เกิดไฟไหม้ และฉีดน้ำได้ไกลถึง 50 เมตร โดยเฮลิคอปเตอร์ “Kamov Ka-32” จะถูกใช้ในการปฏิบัติภารกิจป้องกันสาธารณภัย เช่น การควบคุมไฟป่าในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ รวมถึงเหตุสาธารณภัยอื่น ๆ รวมถึงภารกิจการช่วยเหลือและขนย้ายผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่เข้าถึงด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีสมรรถนะในการทรงตัวสูง บินช้า ลอยตัวนิ่งได้นานกว่าเฮลิคอปเตอร์รุ่นอื่น ทนต่อสภาวะอากาศเลวร้ายได้ดี นอกจากนี้ Kamov Ka-32 ได้ทำการบินอย่างเป็นทางการเที่ยวแรกในภารกิจการฝึกควบคุมไฟป่าหมอกควันร่วมกับกองทัพอากาศ ณ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2563
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ดอยลาน ของบรัฐบาล 4 แสน กำจัดวัชพืชขวางทางน้ำลำห้วย

 

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 67 นายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง พร้อมด้วย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านระดับสูง นายอิทธิพล ช่างกลึงดี ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 16 และคณะทำงานรองนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมรับฟังปัญหา และลงพื้นที่ตรวจความพร้อม และความเหมาะสมของโครงการที่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณงบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามอำนาจของรองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) ปีงบประมาณ 2567 ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลดอยลาน อำเภอเมืองเชียงราย โดยมี นายบุญส่ง ตินารี นายอำเภอเมืองเชียงราย พร้อมด้วยหัวหน้าส่นวราชการ นายกเทศมนตรีตำบลดอยลาน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ ร่วมให้การต้อนรับและเยี่ยมชมพบปะประชาชนที่ได้มีการขอรับการสนับสนุนงบประมาณต่างๆ จากคณะทำงานรองนายกรัฐมนตรี

 

สำหรับพื้นที่ สถานการณ์ภัยแล้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่ตำบลดอยลาน อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ได้รับผลกระทบเรื่องการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค และการเกษตรกรรมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะพื้นที่ส่วนใหญ่มีการทำการเกษตรหลากหลายประเภท รวมทั้งพืชส่วนต่างๆ ซึ่งส่งผลทำให้ผลผลิตทางการเกษตรดังกล่าวมีปริมาณลดลง อีกทั้งน้ำในลำห้วยกั้งไม่มีการขุดลอกเป็นเวลานานจึงทำให้ลำห้วยกั้ง และลำห้วยกอบัว ตื้นเขินและมีวัชพืชขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้กักเก็บน้ำได้น้อยลงราษฎรภายในพื้นที่ได้รับผลกระทบและประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในการอุปโภค บริโภค ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก 
 
 
ด้วยเหตุผลที่ว่าขาดแคลนน้ำสำหรับการสนับสนุนการเพาะปลูกเป็นช่วงฤดูแล้ง เพื่อเป็นการลดต้นทุนด้านการเกษตรและสร้างโอกาสในการใช้ประโยชน์ในพื้นที่เพาะปลูกให้สามารถดำเนินการได้ในฤดูแล้งจำเป็นต้องอาศัยน้ำจากแหล่งน้ำลำห้วยกั้ง และลำห้วยกอบัว แต่เนื่องจากมีงบประมาณอยู่อย่างจำกัด การจ้างเหมากำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำลำห้วยดังกล่าว เกินศักยภาพงบประมาณของเทศบาลตำบลดอยลาน จึงได้มีการขอรับการสนับสนุนงบประมาณดังกล่าว โครงการแรก จำนวน 415,000 บาทถ้วน และ หมู่ที่ 3 จำนวน 463,000 บาทถ้วน 
 
 
ซึ่งหากได้รับงบประมาณในการสนับสนุนดังกล่าวแล้ว ประชาชนทั้งตำบลดอยลานจะได้รับผลประโยชน์จากโครงการดังกล่าว คือ การทำการเกษตรที่เป็นพืชหลัก เช่น การทำนา ทำไร่ ยางพารา และอื่นๆ อีกมากมาย และในบางพื้นที่บางปี ต้องพบกับสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมที่แปรปรวน ส่งผลให้ผลผลิตไม่เต็มที่จึงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและชุมชน และสถานการณ์ที่เกิดโรคระบาดมีเกษตรกรและผู้ว่างงาน ลูกหลานเกษตรกรบางส่วนถูกเลิกจ้างจากงานประจำที่ทำอยู่ในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ๆ หรือบางส่วนตัดสินใจที่จะกลับมาทำอาชีพการเกษตรในภูมิลำเนาของตัวเอง ได้สร้างอาชีพและสร้างรายได้เพิ่มขึ้น
 
 
โดยก่อนหน้านี้ ทางคณะทำงานรองนายกรัฐมนตรี ยังได้ร่วมลงพื้นที่รับฟังรายละเอียดโครงการสนับสนุนงบประมาณกลาง รายการเงินสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามอำนาจของนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) ที่อำเภอพญาเม็งราย อำเภอเทิง และอำเภอขุนตาล จังหวัดเชียงราย มาแล้ว เพื่อที่จะรวบรวมโครงการที่ขอรับการสนับสนุนทุกพื้นที่ นำไปหารือพิจารณาร่วมกัน ในคณะฯ เพื่อบำบัดความเดือดร้อนของประชาชน ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นสามารถดำรงชีพอยู่ได้ด้วยความปกติสุขต่อไป
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News