Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ไทยเป็นเจ้าภาพ “วิสาขบูชาโลก” ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนา

 

เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2567 ดร.พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้ากราบ พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม ในฐานะประธานสภาสากลวันวิสาขบูชาโลก (ICDV) และประธานสมาคมมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนานานาชาติ (IABU) และหารือการเตรียมจัดงานวิสาขบูชาโลก ประจำปี 2567 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ

 

พระพรหมบัณฑิต  เปิดเผยว่า ที่ประชุมฯ ในวันนี้ได้ร่วมกันสรุปกำหนดการการจัดงานวันวิสาขบูชาโลก และการจัดประชุมวิสาขบูชาโลกนานาชาติ “ในหัวข้อเอกภาพของการทำงานร่วมกัน” ซึ่งประเทศไทยได้รับเกียรติในการให้เป็นเจ้าภาพในปีนี้ (2567) โดยมีกำหนดจัดในระหว่างวันที่ 19 – 20 พฤษภาคมนี้  และมีการหารือกันเนื่องในโอกาสที่ปีนี้เป็นปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงได้มีกำหนดเชิญผู้นำทางศาสนา และพุทธศาสนิกชนจากนานาประเทศมาเข้าร่วมงานถึง 73 ประเทศ

 

โดยจะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ การเจริญพระพุทธมนต์  และกิจกรรมถวายพระพรชัยมงคล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือที่ดีจากรัฐบาล ในการอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ รวมถึงงบประมาณสนับสนุน

 

ด้าน ดร.พวงเพ็ชร กล่าวว่า ในนามของรัฐบาล น้อมรับการทำงานให้พระพุทธศาสนาและรับใช้มหาเถรสมาคมอย่างเต็มที่ ในฐานะที่ตนกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาเเห่งชาติและกรมประชาสัมพันธ์ จะประสานการจัดงานให้ประสบผลสำเร็จ และสนับสนุนด้านการประชาสัมพันธ์อย่างเต็มที่เพื่อให้การจัดงานวิสาขบูชาโลก ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ออกสู่สายตาคนทั้งโลกอย่างยิ่งใหญ่  ให้ทั่วโลกได้เห็นว่าประเทศไทยเหมาะสมที่จะเป็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนา ประกอบกับปีนี้เป็นปีมหามงคลของปวงชนชาวไทย

 

เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดี ต้อนรับคณะผู้เข้าร่วมงานวิสาขบูชาโลก และเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา ร่วมสืบสานและน้อมนำหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนามาใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ส่วนราชการเชียงรายพร้อมหน้า สืบสานประเพณีไหว้สาพระธาตุดอยตุง ปี 2567

 

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พร้อมด้วยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำสรงพระธาตุดอยตุง ผ้าไตรพระราชทาน และผ้าห่มพระธาตุพระราชทาน ในโอกาสถวายสักการะครบรอบ “2006 ปี สืบมา หกเป็งล่องฟ้า ไหว้สาพระธาตุดอยตุง” เนื่องในประเพณีนมัสการและสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ประจำปี พ.ศ.2567

 

ในช่วงเวลา 7.00 น.ว่าที่ร้อยตรีศราวุธ จันทวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีบวงสรวงพระธาตุดอยตุง โดยมีนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นำหัวหน้าส่วนราชการ คณะพุทธศาสนิกชน เข้าร่วมพิธี ณ บริเวณพระธาตุดอยตุง  ซึ่งประธานในพิธีฯ นำทุกภาคส่วนปักธูปหางเครื่องบวงสรวง พร้อมโปรยข้าวตอกดอกไม้

 

จากนั้นเวลา 08.00 น. เริ่มขบวนสักการะพระธาตุดอยตุง โดยนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นำข้าราชการเคลื่อนขบวนอัญเชิญเครื่องสักการะหลวง ประกอบด้วย ผ้าห่มพระธาตุ ภัตตาหารเจ ตุงจัย ช้างคู่ พัดจามร สุ่มหมาก สุ่มพลู ต้นผึ้ง และน้ำศักดิ์สิทธิจากน้ำบ่อทิพย์ พร้อมด้วยขบวนตุง ขบวนแห่เครื่องสักการะพระธาตุดอยตุงจาก 18 อำเภอ สภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เทศบาลนครเชียงราย สถานศึกษา และจากหน่วยงานภาคเอกชน จากนั้นนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย และประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย เป็นประธานนำข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พุทธสมาคมจังหวัดเชียงราย สถานศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และพุทธศาสนิกชน ประกอบพิธีถวายเครื่องราชสักการะหลวง ต่อด้วยพิธีพระพุทธมนต์สืบชะตาหลวงล้านนา

 

จากนั้นนายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย อ่านหมายรับสั่งที่ 1332 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี และนายอภิชาติ ศรีสุวรรณ์ นายอำเภอแม่ฟ้าหลวง อ่านหมายรับสั่งที่ 1410 ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หลังเสร็จสิ้น ต่อด้วยพิธีสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ซึ่งเป็นน้ำทิพย์ที่ผ่านการเจริญชัยมงคลคาถา จากบ่อน้ำทิพย์ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ลั่นฆ้องชัย 9 ครั้ง และพิธีถวายผ้าไตรพระราชทานแด่พระสงฆ์ ปิดท้ายด้วยพิธีห่มผ้าพระธาตุดอยตุง เป็นอันเสร็จพิธีตามประเพณีที่ได้ปฏิบัติมา

 

 

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS UPDATE

นิด้า เผยผลรวมคนสนับสนุน ‘พิธา’ นั่งนายกฯ ‘ก้าวไกล’ แรงความนิยมเพิ่ม

 
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 1/2567” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 11-13 มีนาคม 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
 

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 1/2567” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 11-13 มีนาคม 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปกระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,000 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับคะแนนนิยมทางการเมือง การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0

 

จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า 
  • อันดับ 1 ร้อยละ 42.75 ระบุว่าเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) เพราะ มีความกล้าหาญ ตรงไปตรงมา บุคลิกเป็นผู้นำ และเป็นคนรุ่นใหม่ 
  • อันดับ 2 ร้อยละ 20.05 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ 
  • อันดับ 3 ร้อยละ 17.75 ระบุว่าเป็น นายเศรษฐา ทวีสิน (พรรคเพื่อไทย) เพราะ เป็นคนเก่ง มีความรู้ความสามารถ และมีประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจ 
  • อันดับ 4 ร้อยละ 6.00 ระบุว่าเป็น นางสาวแพทองธาร (อุ๊งอิ๊งค์) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) เพราะ เป็นคนรุ่นใหม่ มีทัศนคติที่ดี และมีความเป็นผู้นำ 
  • อันดับ 5 ร้อยละ 3.55 ระบุว่าเป็น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (พรรครวมไทยสร้างชาติ) เพราะ มีวิสัยทัศน์ดี ซื่อสัตย์ มีความรู้ความสามารถ และมีประสบการณ์ในการทำงาน 
  • อันดับ 6 ร้อยละ 2.90 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย) เพราะ เป็นบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือ ทำงานด้วยความโปร่งใส และมีประสบการณ์ในการทำงาน 
  • อันดับ 7 ร้อยละ 1.45 ระบุว่าเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) เพราะ มีความมุ่งมั่นในการทำงาน ซื่อสัตย์ และมีความเด็ดขาดในการตัดสินใจ 
  • อันดับ 8 ร้อยละ 1.05 ระบุว่าเป็น พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ (พรรคพลังประชารัฐ) เพราะ มีประสบการณ์ในการทำงาน และมีผลงานทางการเมือง ร้อยละ 2.45 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ นายชัยธวัช ตุลาธน (พรรคก้าวไกล) นายวราวุธ ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา) นายชวน หลีกภัย (พรรคประชาธิปัตย์) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน (พรรคประชาธิปัตย์) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา (พรรคประชาชาติ) นายกรณ์ จาติกวณิช นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) และ พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง (พรรคประชาชาติ) และร้อยละ 2.05 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

 

               ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 48.45 ระบุว่าเป็น พรรคก้าวไกล อันดับ 2 ร้อยละ 22.10 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย อันดับ 3 ร้อยละ 12.75 ระบุว่า ยังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 4 ร้อยละ 5.10 ระบุว่าเป็น พรรครวมไทยสร้างชาติ อันดับ 5 ร้อยละ 3.50 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 6 ร้อยละ 2.30 ระบุว่าเป็นพรรคพลังประชารัฐ อันดับ 7 ร้อยละ 1.70 ระบุว่าเป็น พรรคภูมิใจไทย อันดับ 8 ร้อยละ 1.30 ระบุว่าเป็น พรรคไทยสร้างไทย และร้อยละ 1.40 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อไทยรวมพลัง และพรรคท้องถิ่นไทย และไม่ตอบ/ไม่สนใจ ในสัดส่วนที่เท่ากัน

 

               เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 8.60 มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพฯ ร้อยละ 18.55 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคกลาง ร้อยละ 17.95 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคเหนือ ร้อยละ 33.45 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 13.75 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคใต้ และร้อยละ 7.70 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออก ตัวอย่าง ร้อยละ 48.10 เป็นเพศชาย และร้อยละ 51.90 เป็นเพศหญิง

 

               ตัวอย่าง ร้อยละ 12.90 อายุ 18-25 ปี ร้อยละ 17.80 อายุ 26-35 ปี ร้อยละ 18.95 อายุ 36-45 ปี ร้อยละ 26.65 อายุ 46-59 ปี และร้อยละ 23.70 อายุ 60 ปีขึ้นไป ตัวอย่าง ร้อยละ 95.50 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 3.55 นับถือศาสนาอิสลาม และร้อยละ 0.95 นับถือศาสนาคริสต์ และศาสนาอื่น ๆ

 

               ตัวอย่าง ร้อยละ 37.35 สถานภาพโสด ร้อยละ 60.35 สมรส และร้อยละ 2.30 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่ ตัวอย่าง ร้อยละ 26.65 จบการศึกษาประถมศึกษาหรือต่ำกว่า ร้อยละ 36.50 จบการศึกษามัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 8.00 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 25.20 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร้อยละ 3.65 จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า

 

               ตัวอย่าง ร้อยละ 8.30 ประกอบอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 15.20 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน ร้อยละ 21.60 ประกอบอาชีพเจ้าของธุรกิจ/อาชีพอิสระ ร้อยละ 12.95 ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมง ร้อยละ 16.60 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน ร้อยละ 19.80 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน และร้อยละ 5.55 เป็นนักเรียน/นักศึกษา

 

               ตัวอย่าง ร้อยละ 23.45 ไม่มีรายได้ ร้อยละ 20.75 รายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 10,000 บาท ร้อยละ 26.75 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001-20,000 บาท ร้อยละ 8.80 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001-30,000 บาท ร้อยละ 4.45 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001-40,000 บาท ร้อยละ 4.35 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 40,001 บาทขึ้นไป และร้อยละ 11.45 ไม่ระบุรายได้

 
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เชียงราย จัดประเพณีเทศน์มหาชาติ บุญผะเหวด ปี 67 วัดปางไตรแก้ว อ.เวียงชัย

 

เมื่อวันเสาร์ที่ 23 มีนาคม 2567  ณ วัดปางไตรแก้ว ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย นางอทิตาธร  วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธี “ประเพณีเทศน์มหาชาติบุญผะเหวด ประจำปี 2567 ปีที่ 21”  พร้อมด้วยนายสุธีระพงษ์ วันไชยธนวงศ์ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย โดยมี พระอนพัทย์ อาพัดทะโร รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดปางไตรแก้ว เป็นประธานฝ่ายสงฆ์  นายบดินทร์ เทียมภักดี นายอำเภอเวียงชัย  ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น พี่น้องประชาชนบ้านไตรแก้ว และผู้เลื่อมใสศรัทธาในพุทธศาสนา ร่วมพิธีในครั้งนี้

 

บุญผะเหวด หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่าบุญมหาชาติ เป็นประเพณีบุญตามฮีตสิบสองของชาวอีสาน แต่ถ้าถือเป็นเรื่องทานก็เป็นประเพณีบริจาคทานครั้งยิ่งใหญ่ เป็นการทำบุญและฟังเทศน์เรื่องพระเวสสันดรชาดกมหาชาติ จำนวน 13 กัณฑ์ การจัดประเพณีเทศน์มหาชาติบุญผะเหวด ประจำปี 2567 ปีที่ 21 เป็นการรำลึกถึงพระเวสสันดรผู้ซึ่งบำเพ็ญเพียรอันยิ่งใหญ่ด้วยวิธีบริจาคทานหรือทานบารมีในชาติสุดท้ายของพระพุทธองค์ก่อนที่จะมาเสวยชาติและตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า งานบุญผะเหวดเป็นงานบุญยิ่งใหญ่ของชาวบ้านไตรแก้ว ด้วยความเชื่อที่ว่า หากได้ฟังเทศน์มหาชาติครบทั้ง 13 กัณฑ์ จบภายในวันเดียวนั้น อานิสงส์จะดลบันดาลให้ไปเกิดในศาสนาของพระศรีอริยเมตไตรย

 

ซึ่งเป็นดินแดนแห่งความสุขตามพุทธคติ จึงได้จัดงานประเพณีเทศน์มหาชาติบุญผะเหวดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ของการจัดงานครั้งนี้คือ  เพื่อรำลึกถึงการบำเพ็ญบุญคือการทำความดีที่ยิ่งใหญ่ตามความเชื่อของชาวบ้าน  เพื่ออนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีศิลปวัฒนธรรมของชาวอีสานและภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป

 

ทั้งนี้ การจัดประเพณีเทศน์มหาชาติบุญผะเหวด ประจำปี 2567 ปีที่ 21 ของวัดปางไตรแก้วในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย จำนวน 30,000 บาท อีกด้วย

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ไหว้สาพระธาตุดอยตุง ปี 67 “2006 ปีสืบมา หกเป็งล่องฟ้า”

 

เมื่อวันที่ วันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม 2567 เวลา 13.00 น. จังหวัดเชียงราย จัดงานประเพณีนมัสการ และสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ประจำปี 2567 “2006 ปีสืบมา หกเป็งล่องฟ้า ไหว้สาพระธาตุดอยตุง” ระหว่างวันที่ 23-24  มีนาคม 2567 ณ วัดพระธาตุดอยตุง ตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

 

กิจกรรมวันที่ 23 มีนาคม 2567

     เวลา 13.00 น. พิธีตักน้ำทิพย์เพื่อนำไปสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ณ บ่อน้ำทิพย์ โดยมีนายพุฒิพงศ์  ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีฯ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการทุกภาคส่วน จัดพิธีฯ ดังนี้

     – ประกอบพิธีตักน้ำทิพย์สรงพระธาตุดอยตุง

     – ขบวนอัญเชิญน้ำทิพย์มายังวิหารวัดน้อยดอยตุง

     – ขบวนอัญเชิญน้ำสรงพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และน้ำสรงพระราชทาน  สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมด้วย ผ้าไตรพระราชทาน 10 ไตร  และผ้าห่มองค์พระธาตุดอยตุง พระราชทาน โดยมีนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และว่าที่ ร.ต.ศาวุธ จันทวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นผู้อัญเชิญ พร้อมด้วยข้าราชการ และเจ้าหน้าที่จากอำเภอแม่สาย ได้อัญเชิญประดิษฐานไว้หน้าพระประธาน เชียงแสนสิงห์ 1 ในวิหารวัดน้อยดอยตุง  

   เวลา 17.00 น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชสวดเบิก ณ วิหารวัดน้อยดอยตุง ตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยนายพุฒิพงศ์  ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายมอบหมายนางสุภาพรรณ  หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธี

 

 การจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยได้รับความร่วมมือจากทุกส่วนราชการ ประชาชน คณะศรัทธาฯ เข้าร่วมกิจกรรม

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

สุพจน์ ทนทาน, วิชากรณ์ กาศโอสถ : รายงาน
พร้อมพงษ์ ทาสิทธิ์ : ภาพ 
อภิชาต กันธิยะเขียว : บรรณาธิการข่าว 
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ตามรอยครูบาเจ้าศรีวิชัยสู่ลานพระธาตุดอยตุง ประจำปี 2567

 

เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 67 ที่ภายในวัดศาลาเชิงดอย ตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนเดินจาริกแสวงบุญตามรอยครูบาเจ้าศรีวิชัย ในงานสืบสานประเพณีนมัสการและสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ประจำปี 2567 ภายใต้ชื่อว่า “2006 ปีสืบมา หกเป็งล่องฟ้า ไหว้สาพระธาตุดอยตุง” ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยมี พระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยตุง ตลอดจนพระเถรานุเถระ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย นายอำเภอแม่สาย หัวหน้าส่วนราชการ พุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดเชียงราย และจังหวัดใกล้เคียง

 

เข้าร่วมพิธีกันอย่างคึกคักท่ามกลางอากาศที่เย็นสบายไร้หมอกควัน หลังจากก่อนหน้านี้ได้มีฝนตกลงมาอย่างมากมายทั่วทั้งจังหวัดทำให้อากาศและบรรยากาศโดยทั่วไปสดใส สดชื่น ทำให้เป็นที่สนใจแก่นักเดิน นักวิ่ง และผู้แสวงบุญ ที่ต้องการเดินจาริกแสวงบุญตามรอยครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งชาวล้านนาที่นับถือกันมายาวนานจนถึงปัจจุบัน เข้าร่วมจำนวนมาก

 

 ภายในพิธีช่วงเช้ามืดของวันนี้ นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และพระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยตุง ประกอบพิธีทางศาสนา วางพานพุ่มดอกไม้สดสักการะครูบาเจ้าศรีวิชัย ที่ด้านหน้าวัดศาลาเชิงดอย เพื่อความเป็นสิริมงคลในการประกอบพิธีเดินจาริกแสวงบุญ โดยได้มีการปล่อยขบวนเดินจาริกแสวงบุญตามรอยครูบาเจ้าศรีวิชัย ตนบุญแห่งล้านนา เป็นระยะทาง 9 กิโลเมตร เพื่อขึ้นไปไหว้สาพระธาตุดอยตุงเจดีย์องค์แรกของล้านนา เพื่อสืบสานประเพณีนสมัสการและสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 23-24 มีนาคม 2567 นี้

 

 นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า พระธาตุดอยตุง ตั้งอยู่ตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เป็นโบราณสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา สร้างมาแต่โบราณกาล และเป็นหลักฐานแรกที่พระพุทธศาสนาเข้ามาประดิษฐานในล้านนา ตามประวัติได้กล่าวไว้ว่า พระมหากัสสะปะเถระ ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระธาตุรากขวัญเบื้องซ้าย หรือ กระดูกไหปลาร้าข้างซ้าย ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาถวายแด่พระพุทธเจ้าอุชุตราช เจ้าผู้ครองนครนาคพันธ์โยนกชัยบุรี รัชกาลที่ 3 แห่งราชวงศ์สิงหนวัติ เป็นประธานบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ณ ดอยดินแดง หรือดอยตุงในปัจจุบัน เมื่อ พ.ศ 561 ซึ่งการบูชาพระธาตุเจดีย์ ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลาตั้งแต่โบราณกาล ซึ่งคนล้านนาถือเอาพระธาตุเจดีย์เป็นที่พึ่งของตน ทุกคืนเวลาไหว้พระจะต้องไหว้พระธาตุคือไหว้พระเจดีย์ ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐาน ณ ที่ต่างๆ โดยเฉพาะผู้ที่เกิดปีกุน คือปีหมู หรือกุลชอน คือมปีช้าง  ตามความเชื่อของชาวล้านนาต้องไหว้พระธาตุเจดีย์ที่ดอยตุง จะเป็นสิริมงคลแก่การดำรงชีวิต

 

สำหรับปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 23 มีนาคม 2567 จังหวัดเชียงราย จึงได้ร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย จัดให้มีกิจกรรมเดินจริกแสวงบุญ ตามรอยครูบาเจ้าศรีวิชัย ขึ้นไปนมัสการพระธาตุดอยตุง ซึ่งเมื่อครั้งครูบาเจ้าศรีวิชัย ได้เดินทางจารึกแสวงบุญและทำการบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระธาตุดอยตุง ด้วยแรงแห่งความศรัทธา เมื่อปีพุทธศักราช 2470 พระครูบาเจ้าศรีวิชัยได้ใช้เส้นทางแห่งนี้ เป็นทางเดินขึ้นองค์พระธาตุดอยตุง คณะศรัทธาพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดเชียงราย จึงได้ยึดถือเป็นประเพณีการเดินจาริกแสวงบุญ สืบต่อมาเป็นประเพณีทุกๆ ปี อีกด้วย

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เทศบาลนครเชียงรายรับรางวัล ศูนย์ อปพร. ดีเด่น 14 ปีซ้อน

 

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2567 วันอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ รางวัลศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนนครเชียงรายดีเด่น โดยนายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ผู้อำนวยการศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนนครเชียงราย เข้ารับมอบ ณ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร

 
ทั้งนี้ นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ในฐานะผอ.ศูนย์อปพร.นครเชียงราย ขอขอบคุณพี่น้องอปพร.เทศบาลนครเชียงราย จำนวนกว่า 2,000 คน ซึ่งทางศูนย์อปพร.เทศบาลนครเชียงรายรับรางวัล 14 ปีซ้อน ทุกคนคือ กำลังสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข เพื่อร่วมนำพาประเทศ และประชาชนไปสู่ความปลอดภัยอย่างยั่งยืน
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
CULTURE

หมูป่า ผลงานของถวัลย์ ดัชนี ปิดยอดประมูลที่ 1,856,800 บาท

 
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ที่ JWD Art Space มีการจัดงานประมูล “Voyage De l’Art” ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง The Art Auction Center และ De Siam ให้ทุกท่านได้เลือกสรรผลงานที่น่าสนใจมากกว่า 122 ชิ้นงาน 
 

โดยได้รับความสนใจจากคนรักงานศิลปะทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ร่วมเดินทางไปสำรวจดินแดนอันกว้างใหญ่และไร้ขอบเขตกันอย่างหนาตาที่ JWD Art Space ส่งผลให้บรรยากาศการประมูลเต็มไปด้วยสีสันและเรียกเสียงฮือฮาเป็นระยะ และภาพอีกหนึ่งผลงานหาชมยากอย่าง หมูป่า ผลงานของถวัลย์ ดัชนี ปิดยอดประมูลได้ถึง 1,856,800 บาท

 

ผลงานศิลปะที่เข้าร่วมงาน VOYAGE DE L’ART มีทั้งหมด 122 ชิ้น นำมาจัดแสดงเป็น 8 โซน 8 ดินแดนที่รอคอยการสำรวจ รวบรวมผลงานศิลปะหลากหลายแขนงของศิลปินชื่อดังชาวไทยและต่างชาติ โดยมี “หีบเดินทาง” (Trunk) วินเทจของ Louis Vuitton และ Goyard โดย ดี สยาม เป็นจุดเช็กอินที่ทุกคนแวะมาถ่ายภาพ สะท้อนความเป็นเพื่อนคู่ใจของนักเดินทาง ก่อนจะกลายเป็นของสะสมอันทรงคุณค่าที่บ่งบอกถึงสไตล์และเสน่ห์ข้ามกาลเวลา

 

การเดินทางของงานศิลปะหาชมยากถือเป็นประสบการณ์ตื่นเต้นเร้าใจ โดยมีนางเอกของการประมูลที่สร้างสีสันให้คนรักงานศิลป์ร่วมประมูลกันอย่างดุเดือดต้องยกให้ไฮไลต์ทั้ง 10 ชิ้น ผลงานของศิลปินระดับ Old Master ยังครองบัลลังก์อย่างสง่างาม เคียงคู่กับศิลปินยุคใหม่มากฝีมือ ไม่ว่าจะเป็น

  1. Stupa (สถูป) ผลงานของมณเฑียร บุญมา
  2. Landlord of The Earth ผลงานของถวัลย์ ดัชนี
  3. นกอินทรี ผลงานของถวัลย์ ดัชนี
  4. Business Talk ผลงานของนที อุตฤทธิ์
  5. หมูป่า ผลงานของถวัลย์ ดัชนี
  6. Duck Out No.2 ผลงานของ Alex Face (พัชรพล แตงรื่น)
  7. Freedom of Speech ผลงานของ MUEBON (มือบอญ)
  8. The Waiting Pink Version ผลงานของ ‘มอลลี่’ นิสา ศรีคำดี
  9. มิสเตอร์ครีม (Mr.Kreme) ผลงานของวรกันต์ จงธนพิพัฒน์
  10. ปากปีจอ ผลงานของวันดา ใจมา

สุดท้ายภาพของถวัลย์ ดัชนี สามารถทำเงินได้ทั้งหมดถึง 8,471,650 บาท โดยทั้ง 3 ภาพคือ

  • Landlord of The Earth ผลงานของถวัลย์ ดัชนี ปิดยอดประมูลที่ 4,409,900 บาท งานชิ้นใหญ่ซึ่งใช้เวลาในการสร้างสรรค์นานและใช้ความละเอียดพิถีพิถันมาก เวลาวาดอาจารย์ถวัลย์จะนอนคว่ำเอาอกหนุนหมอนไว้แล้วใช้ปากกาค่อย ๆ ฝน ให้มีน้ำหนักอ่อนแก่จนเกิดเป็นภาพคนที่มีหัวเป็นสัตว์ เป็นงานซึ่งอยู่ในสภาพสมบูรณ์ดีมาก ทั้งที่เวลาผ่านไปหลายสิบปีแล้ว
  • นกอินทรี ผลงานของถวัลย์ ดัชนี ปิดยอดประมูลที่ 2,204,950 บาท ภาพจิตรกรรรมที่เกิดจากการตวัดฝีแปรงอย่างรวดเร็วและหนักแน่น ซึ่งเป็นคาแรกเตอร์อันเป็นภาพจำของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี โดยวาดเป็นนกอินทรีที่แสดงถึงพละกำลังและความแข็งแกร่ง
  • หมูป่า ผลงานของถวัลย์ ดัชนี ปิดยอดประมูลที่ 1,856,800 บาท อีกหนึ่งผลงานหาชมยาก สะท้อนคาแรกเตอร์ของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ได้อย่างทรงพลัง อันเกิดจากการตวัดฝีแปรงอย่างรวดเร็วและหนักแน่น ที่แสดงถึงพละกำลังและความแข็งแกร่งของสัตว์ต่าง ๆ ได้อย่างน่าทึ่ง

นิทรรศการ “VOYAGE DE L’ART” จัดขึ้นที่ JWD Art Space ชั้น 3 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 233 7939 และ 065 097 9909 ติดตามการประมูลงานศิลปะของ The Art Auction Center ครั้งต่อไปได้เร็ว ๆ นี้ และถ้าอยากชมนิทรรศการศิลปะหาชมยาก หรือเข้าร่วมการประมูลครั้งต่อไปติดตามได้ที่ https://www.facebook.com/theartauctioncenter

ประวัติ ถวัลย์ ดัชนี

ถวัลย์ ดัชนี เกิดเมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2482 ที่จังหวัดเชียงราย เป็นบุตรของนายศรี และนางบัวคำ (พรหมสา) ดัชนี เป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวนพี่น้อง 4 คน ได้แก่ พ.ต.สว่าง ดัชนี นายสมจิตต์ ดัชนี และนายวสันต์ ดัชนี สมรสกับนางคำเอ้ย มีบุตรชาย 1 คน คือ นายดอยธิเบศร์ ดัชนี 

 

ถวัลย์ ดัชนี ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) พ.ศ. 2544 

 

ประวัติการศึกษา

พ.ศ. 2485-2491 ศึกษาระดับประถมที่โรงเรียนเชียงรายวิทยาคม จังหวัดเชียงราย

พ.ศ. 2492-2498 ศึกษาระดับมัธยมที่โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม จังหวัดเชียงราย

พ.ศ. 2498-2500 ศึกษาระดับครูประถมการช่าง (ปปช.) จากโรงเรียนเพาะช่าง

พ.ศ. 2500 – 2505 ศึกษาปริญญาตรีศิลปบัณฑิต (เกียรตินิยม) จากคณะจิตรกรรมประติมากรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร

พ.ศ. 2506 – 2512 ศึกษาระดับปริญญาโท ทางด้านจิตรกรรมฝาผนัง อนุสาวรีย์ ผังเมือง และปริญญาเอก สาขาอภิปรัชญาและสุนทรียศาสตร์ ที่ราชวิทยาลัยศิลปแห่งชาติ อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ (RIJKS AKADEMIE VAN BEELDEN DE KUNSTEN AMSTERDAM NEDERLAND)

 

คนไทยไม่ยอมรับผลงาน

เมื่อกลับมาถึงประเทศไทย เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น รูปเขียนขนาดใหญ่ของเขาหลายรูปถูกนักเรียนกรีดทำลาย เว็บไซต์หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ บรรยายเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า “รูปเขียนขนาดใหญ่ของเขาหลายรูป ถูกนักเรียนกรีดทำลายด้วยเหตุที่ว่างานของเขานั้นดูหมิ่นพระพุทธศาสนา ทำให้ถวัลย์ ดัชนี เลิกแสดงผลงานในประเทศไทยไปนานหลายปี กว่าคนไทยจะยอมรับได้ ก็ต้องใช้เวลานานถึงสามสิบกว่าปี”

 

หลังจาก ถวัลย์เลิกแสดงงานศิลปะในไทย การชื่นชมผลงานของถวัลย์ ส่วนใหญ่ต้องผ่านหนังสือหรือสื่อต่างประเทศ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษางานศิลปะในหมู่นักศึกษาและผู้สนใจงานศิลปะ แต่ยังมีกลุ่มบุคคลสำคัญในแวดวงศิลปะในไทยสนับสนุน ผลงานของถวัลย์ ยังแพร่หลายไปในหลายประเทศทั่วโลก ในปัจจุบันผลงานของเขาได้รับการยอมรับ และได้รับการยกย่องชื่นชมว่าเป็นงานศิลปะชั้นเลิศ อีกทั้งเป็นที่นิยมในหมู่นักสะสมงานศิลปะทั่วไปอีกด้วย

 

เสียชีวิต

ถวัลย์ ดัชนี ได้ถึงแก่กรรมด้วยอาการสงบ จากอาการตับวาย เวลา 02.15 น. ของวันที่ 3 กันยายน 2557 ถวัลย์ ดัชนี มีโรคประจำตัวคือ เบาหวาน และความดัน เมื่อประมาณปี 2555 ได้เข้ารับการรักษาโรคต่อมลูกหมากโตซึ่งมีความเสี่ยงเป็นมะเร็ง ต่อมาเมื่อต้นปี 2557 ตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากระยะสุดท้าย และในช่วงปลายเดือนมิถุนายนจึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอย่างจริงจัง จนกระทั่งพบว่าเชื้อมะเร็งลุกลามไปที่ตับและปอด มีอาการไตวาย จากนั้นอาการทรุดหนักจนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายของชีวิต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : The Art Auction Center

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ระดมผู้ประกอบการ 17 จังหวัดภาคเหนือ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชายแดนภาคเหนือ 2024

 

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2567 เวลา 14.00 น. ที่โรงแรมไชยนารายณ์ ริเวอร์ไซด์ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย นางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานแถลงข่าว โครงการ “การขับเคลื่อนเศรษฐกิจชายแดนภาคเหนือ 2024 NORTHERN BORDER ECONOMY ACCELERATION 2024 ภายใต้ โครงการสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก ด้วยเศรษฐกิจมูลค่าสูงภาคเหนือ ประจำปีงบประมาณ 2566 ไปพลางก่อน” โดยมี นางณัฐพร มหาไพบูลย์ พาณิชย์จังหวัดเชียงราย พร้อมหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดเชียงราย หอการค้าจังหวัดเชียงราย และผู้ประกอบการธุรกิจในภาคเหนือ 17 จังหวัดเข้าร่วม

 

นางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จังหวัดเชียงรายเป็นจังหวัดที่อยู่เหนือสุดของประเทศ เป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ มีนักท่องเที่ยวมาเยือนสูงถึง 5 ล้านคน มีรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 34,400 ล้านบาท สูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ของภาคเหนือ ทั้งยังเป็นจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน คือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว, สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา, และสาธารณรัฐประชาชนจีน ทำให้มีการพัฒนาเส้นทางคมนาคมจากเชียงรายสู่ประเทศเพื่อนบ้านทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศ โดยมีด่านการค้าชายแดน 4 ด่าน ใน 3 อำเภอ ได้แก่ แม่สาย, เชียงของ, และเชียงแสน ซึ่งมีปริมาณการค้าขยายตัวอย่างต่อเนื่อง มียอดมูลค่าการส่งออกปีละประมาณ 1 แสนล้านบาท รัฐบาลจึงกำหนดพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ โดยจังหวัดเชียงราย, เชียงใหม่, ลำปาง, และลำพูน ถูกกำหนดให้เป็นระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ หรือ Northern Economic Corridor: NEC – Creative LANNA เพื่อพัฒนาเป็นฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์หลักของประเทศอย่างยั่งยืน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เมื่อโครงสร้างพื้นฐานพัฒนา การค้าเติบโตเศรษฐกิจก็จะดี คนต้องพัฒนาตาม

 

ซึ่งการดำเนินโครงการฯ ดังกล่าว ประกอบด้วย 4 กิจกรรมหลักดังนี้

  1. การอบรมสัมมนาผู้ประกอบการ Boost Up Trader to Overseas วันที่ 21-22 มีนาคม 2567 ณ โรงแรม ไชยนารายณ์ ริเวอร์ไซด์
  2. การศึกษาดูงานการค้าชายแดน ที่จังหวัดหนองคาย และ จังหวัดตากในเดือนเมษายน 2567
  3. การประชุม/ สัมมนาร่วมภาครัฐ และเอกชนกลุ่มภาคเหนือของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านระหว่างวันที่ 1-2 พฤษภาคม 2567 ณ โรงแรมเฮอริเทจ แกรนด์ คอนเวนชั่นเชียงราย
  4. กิจกรรม Focus Group การอภิปรายหารือ เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาทางการค้า ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2567 ณ โรงแรมเฮอริเทจ แกรนด์คอนเวนชั่น เชียงราย

 

ทางด้านนางณัฐพร มหาไพบูลย์ พาณิชย์จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จังหวัดเชียงรายมีจุดผ่านแดนถาวร 6 จุด และจุดผ่อนปรนทางการค้าติดกับชายแดนเมียนมา 5 จุด ติดกับ สปป.ลาว อีก 5 จุดเป็นด่านการค้าที่เชื่อมกับเส้นทาง R3B และ R3A จุดหมายปลายทางของการส่งสินค้าจะส่งเข้าสู่ประเทศจีนทำให้กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ เป็นจุดเชื่อมโยงการค้าชายแดนที่สำคัญ เป็นประตูการค้าชายแดนโดยตรงกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และยังเป็นช่องทางการผ่านแดนที่สำคัญในการเชื่อมโยงกับสาธารณรัฐประชาชนจีน มีศักยภาพในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ การค้าชายแดน-ผ่านแดน จากการเปิดเสรีทางการค้า กรอบความร่วมมือระดับภูมิภาคต่าง ๆ ที่บรรลุข้อตกลงระหว่างกัน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

22 มีนาคม วันสถาปนา มณฑลทหารบกที่ 37 ครบรอบปีที่ 106

 
เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 67 พลตรี บุญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 เป็นประธานในพิธีสักการะ และพิธีทางศาสนาเพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นการรำลึกถึงประวัติศาสตร์ และความเป็นมาของหน่วย อีกทั้งเพื่อเป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับวีรชนเหล่าทหารหาญที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละเลือดเนื้อ รักษาปกป้องผืนแผ่นดินไทย สร้างความมั่นคงและปลอดภัยให้แก่คนในชาติ อันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้หน่วยมณฑลทหารบกที่ 37 เป็นหน่วยทหารที่ดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคง เป็นหน่วยงานที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับส่วนราชการ หน่วยงาน ประชาชน และทุกภาคส่วนที่มีความสำคัญในพื้นที่จังหวัดเชียงราย

 

เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนามณฑลทหารบกที่ 37 ครบรอบ 106 ปี ซึ่งการปฏิบัติในพิธีฯ ได้รับเกียรติจากพระไพศาลประชาทร วิ. (หลวงพ่อพบโชค ติสสวังโส) องค์ประธานอุปถัมภ์ฝ่ายสงฆ์ นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย อดีตนายทหาร ผู้บังคับบัญชาระดับสูง และผู้บังคับบัญชาหน่วยต่างๆ ในพื้นที่ ตลอดจนนายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย ผู้แทนหน่วยงานภาคเอกชน ผู้แทนชุมชนรอบค่าย สมาคมสื่อมวลชนและนักประชาสัมพันธ์เชียงราย เดินทางเข้าร่วมแสดงความยินดีกับเกียรติประวัติของหน่วย และร่วมพิธีอันเป็นสิริมงคลที่หน่วยได้ดำเนินการจัดขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน ณ มณฑลพิธีด้านหน้ากองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 ค่ายเม็งรายมหาราช อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย

 

โดยเริ่มจากช่วงเช้าผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 เป็นประธานกระกอบพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และบวงสรวง สมเด็จพระมหาจักรพรรดิธรรมราชา พระพุทธมารวิชัยไตรรัตนาธิคุณ พระบรมราชานุสาวรีย์พญามังรายมหาราช ต่อจากนั้นพระสงฆ์ จำนวน 10 รูป ประกอบพิธีทางศาสนา โดยมี พลโท ศุภอักษร สังประกุล อดีตผู้บังคับการจังหวัดทหารบกเชียงราย เป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จุดเครื่องทองน้อยหน้าโกศบรรจุรายชื่อผู้เสียชีวิต และร่วมกันทอดผ้าไตรบังสุกุล ตามลำดับ

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News