เมื่อ 11 มกราคม 2567 ที่วิทยาลัยป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศ อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย พลโทนฤทธิ์ ถาวรวงษ์ แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ หรือ นบ.ยส.35 เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ในพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ชายแดนภาคเหนือ พ.ศ. 2567 โดยมี นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ ผอ.ปปส. ภาค 5 ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างคับคั่ง
.
พลโทนฤทธิ์ ถาวรวงษ์ แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือกล่าวว่า ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหายาเสพติดพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ ให้มีการสกัดกั้นยับยั้งยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ อย่างเป็นรูปธรรมจึงได้กำหนดพื้นที่เร่งด่วนใน 5 อำเภอชายแดนจังหวัดเชียงใหม่ และ 6 อำเภอชายแดนจังหวัดเชียงราย ได้มีการบูรณาการการทำงานร่วมกันโดยมีการจัดตั้งหน่วยบัญชาการสกัดกั้น และปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (นบ.ยส.35) ซึ่งประกอบด้วยกำลังทหาร, ตำรวจ, ป.ป.ส. และ ฝ่ายปกครอง ร่วมดำเนินการ ซึ่งทางรัฐมนตรียุติธรรมได้ให้ความสำคัญ และกำหนดการปฏิบัติ 10 เดือน(1 ธ.ค.66 – 30 ก.ย.67) นโยบายดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน ซึ่งเป็นปัญหาภัยความมั่นคงที่สำคัญประการหนึ่ง
ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือกล่าวต่อไปว่า ในห้วงวันที่ 11 – 12 มกราคม 2567 นบ.ยส.35 ได้กำหนดจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ณ วิทยาลัยป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เพื่อสร้างความร่วมมือและพัฒนาขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่ระหว่างองค์กร บูรณาการความรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหายาเสพติดครอบคลุมพื้นที่ชายแดนภาคเหนือจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่อ.เวียงแหง,อ.เชียงดาว,อ.ไชยปราการ, อ.ฝาง, อ.แม่อาย และพื้นที่จังหวัดเชียงราย ได้แก่ อ.แม่จัน, อ.แม่ฟ้าหลวง, อ.แม่สาย, อ.เชียงแสน, อ.เชียงของ, อ.เวียงแก่น มีหน่วยเข้าร่วมประชุม ได้แก่ ทหาร, ตำรวจ,ฝ่ายปกครอง, ปปส.ภาค 5, ศุลกากร และอุตสาหกรรมอันจะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการสกัดกั้นยาเสพติดจากชายแดน ไม่ให้มีการลักลอบลำเลียงขนส่งเข้ามายังพื้นที่ตอนใน ซึ่งในห้วงที่ผ่านมามีผลการดำเนินการ การสกัดกั้นและจับกุม จำนวน 14 ครั้ง ได้ ผู้ต้องหาจำนวน 3 คน กลุ่มผู้ลำเลียงเสียชีวิตจำนวน 19 ศพ และยึดของกลาง ยาบ้า จำนวน20 ล้านเม็ดเศษ ไอซ์ จำนวน 323 กก.
“นบ.ยส.35 มีหน้าที่ วางแผน อำนวยการ ประสานงาน และผนึกกำลังจากทุกภาคส่วนในพื้นที่รับผิดชอบ เข้าดำเนินการ และปฏิบัติการ ดังนี้ สกัดกั้น ยับยั้ง และจับกุม ไม่ให้มีการลักลอบนำเข้ายาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ เข้ามาในประเทศได้ ปราบปราม ทำลายโครงสร้างเครือข่ายการค้ายาเสพติดและวงจรทางการเงิน ของกลุ่มนักค้ายาเสพติดตามแนวชายแดน ปราบปรามการลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านระบบโลจิสติกส์ตามแนวชายแดน เสริมสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้าน/ชุมชนตามแนวชายแดน เพื่อต่อต้านยาเสพติด เฝ้าระวัง ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการแจ้งข่าว ในพื้นที่รับผิดชอบให้มากที่สุดและยั่งยืน ประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ให้ช่วยดำเนินการปราบปราม จับกุมผู้ค้ายาเสพติด และผู้ที่หลบหนีหมายจับเข้าไปอาศัยอยู่ในต่างประเทศ ดำเนินการอื่น ๆ ที่จำเป็น เพื่อไม่ให้ยาเสพติดถูกลักลอบลำเลียงเข้ามาในประเทศได้”พลโทนฤทธิ์ กล่าว